เผยเส้นทางบินตรงข้ามภาค เชียงใหม่-หัวหิน, เชียงใหม่-ภูเก็ต เริ่มคึกคัก

เผยเส้นทางบินตรงข้ามภาค เชียงใหม่-หัวหิน, เชียงใหม่-ภูเก็ต เริ่มคึกคัก เพิ่มเป็นวันละ 30-40 เที่ยวบิน

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการ เปิดเมืองเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยว (CHARMING Chiang Mai) โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเป็นระยะ ทั้งการจัดเตรียมพื้นที่และบุคลากร ภายใต้การตรวจติดตามและคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะการรับนโยบายจากจังหวัดเชียงใหม่ และประสานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขและเกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวด้วยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทำให้บรรยากาศการเดินทางเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยสายการบินต่าง ๆ ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากเดิมที่เฉลี่ยวันละ 20 เที่ยวบิน เป็นวันละ 30-40 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 คน และตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สายการบินต่าง ๆ เริ่มทยอยเปิดให้บริการเส้นทางบินข้ามภาค เช่น เส้นทางเชียงใหม่-หัวหิน-เชียงใหม่ และเชียงใหม่-ภูเก็ต-เชียงใหม่ ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่ และเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวต่อไป

ขณะที่ในวันนี้ (15 ตุลาคม 2564) นายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายสนับสนุนธุรกิจ) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ มอบสายคล้องหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมของชุมชนรอบสนามบิน ให้แก่ผู้โดยสารจำนวน 122 คน ที่เดินทางมาจากหัวหิน ในเที่ยวบิน FD7901 ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เพื่อแสดงการต้อนรับและรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัย ที่ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้เที่ยวบินดังกล่าว ถือเป็นการให้บริการเส้นทางบินข้ามภาคเที่ยวบินแรก หลังจากเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 สอดรับกับบรรยากาศการเดินทางที่ผ่อนคลายขึ้น รวมทั้งสนับสนุนนโยบาย “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ของรัฐบาล ซึ่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามมาตรการการเดินทางของจังหวัดปลายทางที่กำหนด ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยเเละสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด อาทิ การลงทะเบียนเข้าพื้นที่ การแสดงเอกสารรับวัคซีน หรือผลการตรวจโควิดไม่เกิน 72 ชั่วโมง เป็นต้น