ร้านทองอีสาน-ตะวันออกดิ้น อัดโปรลดค่ากำเหน็จ-ดอกเบี้ยจำนำท้ายปี

ร้านทองอีสาน-ตะวันออกอัดโปรฯหนักโค้งสุดท้ายปลายปี หวังกระตุ้นกำลังซื้อ หลังทองแพง-โควิดระบาดทำยอดซื้อ-ขายดิ่งกว่า 50% แถมเจอพิษดีเปรสชั่นทำนาข้าว-พืชไร่เสียหาย

นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง อดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และเจ้าของร้านทองกวงเชียงล้ง ในจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 64) ยอดการซื้อขายในธุรกิจค้าทองปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ ขณะที่ลูกค้าที่มีกำลังซื้อยังไม่อยากซื้อ แม้ช่วงไตรมาสสุดท้ายมีการจัดงานมงคล งานหมั้น งานแต่ง

แต่ไม่สามารถทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นมาได้ เพราะราคาทองคำทรงตัวอยู่ในระดับสูง ประมาณบาทละ 28,000 บาท คนจะซื้อเท่าที่จำเป็น การจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายปลายปีทำได้ยาก

ทำเพียงแจกของชำร่วย ทั้งนี้ ยอมรับว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ร้านทองแต่ละร้านทำได้เพียงประคองตัว บางส่วนหยุดกิจการชั่วคราว บางร้านเลิกกิจการไปก็มี และยังต้องห่วงระวังเรื่องโจรผู้ร้ายที่มากกว่าปกติ

“9 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ร้านทองค่อนข้างแย่เอามาก ๆ กำลังซื้อไม่มีเลย ธุรกิจค้าขายทองคำต้องดูสถานการณ์รอบข้างว่าเป็นอย่างไร หากสินค้าเกษตรราคาดี คนมีเงินเหลือค่อยมาคิดซื้อทอง แต่ถ้าราคาทองคำแพงก็จบ ค่าเงินบาทอ่อนทำให้ราคาทองแพง

ยอมรับว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ร้านทองแต่ละร้านทำได้แค่ประคองตัว ขอให้อยู่รอดปลอดภัยก็ดีใจแล้ว ปีนี้ร้านขายทองหยุดกันบ่อย บางร้านเลิกกิจการไป ส่วนร้านขายส่งทองที่กรุงเทพฯเปิดทำการค้าไม่เต็มที่ เปิดแค่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ก็ยังมี”

นายธีระกล่าวต่อไปว่า การผ่อนคลายมาตรการของภาครัฐ รวมถึงนโยบายเปิดประเทศถือเป็นเรื่องดีจะทำให้เศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่มีความเสี่ยง ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้

เพราะภาคธุรกิจจะแห้งตายกันหมดแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว จะส่งผลให้มีรายได้เข้ามาดำรงชีวิต ใช้หนี้ แล้วค่อยมาคิดซื้อทองกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะดีทันที เพราะแต่ละประเทศมีมาตรการคล้าย ๆ กัน

สารคามจัดโปรฯลดกำเหน็จ

นายสิทธิชัย วรรักษ์ธารา เจ้าของห้างทองดีจริงเยาวราช จังหวัดมหาสารคาม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ต้องยอมรับว่าธุรกิจค้าทองปีนี้มีความผันผวนมากเนื่องจากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นสูงตลอดทั้งปี

เมื่อทองมีราคาสูงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดต่ำลง โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ฉุดกำลังซื้อเพราะผู้บริโภคหลายกลุ่มไม่มีงานทำ รายได้ลดลง

ทำให้ทางห้างทองดีจริงเยาวราชปรับกลยุทธ์ทางการตลาดนอกจากการขายผ่านหน้าร้าน ได้เปิดขายออนไลน์โดยทำการไลฟ์สด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ไม่อยากออกจากบ้าน เพราะกลัวติดโรคโควิด-19 ปรากฏว่ายอดขายกลับมาคึกคักดีมาก ทำให้ภาพรวมยอดขาย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับโค้งสุดท้ายของปีนี้ได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหนักพอสมควร เพราะพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดมหาสารคามได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมนาข้าวเสียหายหลายหมื่นไร่

โดยเฉพาะใน 3 อำเภอ อ.โกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัย อ.เชียงยืน รวมทั้งธุรกิจเลี้ยงปลากระชังก็เสียหายหนัก คาดว่ากำลังซื้อของกลุ่มเกษตรกรส่วนนี้จะลดลงไป เพราะแทนที่จะได้ขายผลผลิตแล้วมีเงินมาจับจ่ายสินค้าช่วงปลายปี เม็ดเงินส่วนนี้จะหายไป

โดยกิจกรรมส่งเสริมการขายของร้านที่ทำอยู่ในขณะนี้คือการลดค่ากำเหน็จ จะทำให้ลูกค้าจ่ายสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง รวมทั้งเตรียมของสมนาคุณเพื่อตอบแทนลูกค้าที่มีอุปการคุณกับทางร้านมาโดยตลอดช่วงปลายปี มั่นใจว่าภาพรวมยอดขายตลอดปีน่าจะใกล้เคียงกับปี 2563 เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ประจำยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอยู่

สำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมหาสารคามคงไม่ได้อานิสงส์เท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เมืองหลักด้านการท่องเที่ยว

ตราดลดดอกเบี้ยจำนำ 2%

แหล่งข่าวจากเจ้าของร้านห้างทองแสนตุ้ง สาขา 1 อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในตำบลแสนตุ้งเป็นตลาดเล็ก ๆ แต่มีร้านทองอยู่ 7 แห่ง

เนื่องจากในพื้นที่มีการทำสวนผลไม้ สวนยางพาราขนาดใหญ่ และธุรกิจอื่น ๆ เศรษฐกิจดี สวนหนึ่งมีการใช้แรงงานต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้การซื้อ-ขายทองที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี

แต่ปี 2563 เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ยอดขายเริ่มลดลง แต่ไม่มาก เพราะราคาผลไม้ดี ยอดขายช่วง 9 เดือนของปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายที่ลูกค้ามาซื้อทองรูปพรรณลดลงประมาณ 50%

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อกันเป็นลูกโซ่ ส่งผลให้ลูกค้าที่มาจำนำทองลดลงประมาณ 50% บางครั้งระบบหมุนเวียนเงินไม่คล่อง

ต้องใช้สินเชื่อเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (over draft-OD) ของธนาคารมาช่วยเสริมสภาพคล่อง ส่วนการซื้อขายทองผ่านแอปเป๋าตังยังไม่รู้จักกัน แต่จากพฤติกรรมที่ผ่านมา ลูกค้าจะนิยมมาซื้อทองนำไปเก็บเอง

“ก่อนหน้านี้ แรงงานต่างชาตินิยมเก็บเงินซื้อทองกลับบ้านกันทุกปี ตั้งแต่ 1 สลึงถึง 2-3 บาท มาปีนี้แรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานน้อยลง และมีรายได้ต่ำลง เกษตรกรทั่วไปต้นทุนสูงขึ้น


จึงทำให้ยอดขายทองลดลงมาก และแต่ละร้านขายทองมีการแข่งขันกัน ห้างทองแสนตุ้งเองมีการปรับอัตราดอกเบี้ยจำนำลดลงจาก 3% เหลือ 2% ระยะเวลา 1-3 เดือน ยืดเวลาให้ลูกค้าอีก 2-3 สัปดาห์ และมีของแถม แจกลูกค้าเล็ก ๆ น้อย ๆให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นปีใหม่ 2564 เรื่อยมาถึงตอนนี้”