น้ำทะลักเมืองปัตตานี สั่งปิดถนนสายหลักเข้าเมืองแล้ว

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 3 ธันวาคม สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ปัตตานี ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือจาก จ.ยะลา ยังคงไหลบ่า เข้ามาสมทบในแม่น้ำปัตตานี โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรที่ถูกอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานีถูกน้ำท่วมสูงอยู่แล้วนั้นระดับน้ำก็ยังสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ยังทำให้มวลน้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมอีกในหลายพื้นที่ โดยในส่วนของน้ำที่ได้ทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ยังคงทำได้ลำบาก เนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดน้ำทะเลหนุนตลอดทั้งคืน และการระบายน้ำที่เกิดจากฝนตกสะสมและน้ำเหนือจากพื้นที่ จ.ยะลาไม่สามารถระบายได้และทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี รวมถึงถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะถนนยะรัง ถนนจะบังติกอ ถนนกะลาพอ ต.จะบังติกอ น้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร

ล่าสุดนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศบาลเมืองปัตตานีขอความช่วยเหลือไปยังชลประทานปัตตานี เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 2 เครื่อง มาติดตั้งและเร่งสูบระบายน้ำออกจากจุดที่เป็นย่านเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือบรรดาร้านค้าไม่ให้สินค้าต่างๆ เกิดความเสียหายไปมากกว่าที่เป็นอยู่

นายพิทักษ์เปิดเผยว่า ปีนี้ปริมาณน้ำท่วมมีจำนวนมหาศาลกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา หากยังเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้นต่อเนื่องเครื่องมือป้องกันน้ำท่วมที่เทศบาลมีอยู่นั้นก็จะไม่สวามารถรับมือได้อีกต่อไป

ขณะที่นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานีได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมเขตโดยรอบตัวเมืองปัตตานีพบว่าน้ำเหนือยังคงไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เป็นวงกว้างจนบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูงขึ้น นอกจากนี้น้ำยังไหลป่าท่วมถนนหลายสาย โดยเฉพาะถนนสายหลักสาย 410 ระหว่างบ้านมะพร้าวต้นเดียวมุ่งสู่ตีวเมืองปัตตานีระดับน้ำท่วมถนนสูงกว่า 1 เมตร ในระยะทางร่วม 2 กิโลเมตร โดยขณะนี้ได้มีการนำแผงเหล็กกันห้ามใช้รถผ่านเส้นทางดังกล่าวแล้วเพราะระดับน้ำที่สูงนั้นยังเชี่ยวกราด ซึ่งอาจพัดรถที่ขับจนเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้หากประชาชนที่ต้องการจะเดินทางมายังเขต อ.เมืองปัตตานี ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางเก่าคือสาย อ.หนอกจิก – เมืองแทน

ส่วนความเสียหายจากน้ำท่วมล่าสุดศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์ด้านอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จ.ปัตตานี ได้รายงานเหตุด่วนสาธารณภัย ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 อำเภอ 621 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ในส่วนพื้นที่น้ำท่วมล้นตลิ่งในพื้นที่เศรษฐกิจเขตเทศบาลเมืองปัตตานีได้รับความเสียหายประกอบด้วยประกอบด้วยชุมชนริมคลอง, ชุมชนวังเก่า, ชุมชนวอกะห์เจะหะ, ชุมชนตะลุโบ, ชุมชนอาเนาะรู, ชุมชนอาเนาะซูงา, ชุมชนหัวตลาด, ชุมชนคลองช้าง, ชุมชนตลาดเทศวิวัฒน์, ชุมชนสะบารัง, ชุมชนโรงอ่าง, ชุมชนบือติงหะยีแม, ชุมชนบิงติงตันหยง และเส้นทางจราจรปิดการจราจร ทางหลวง 418 ช่วง งาแม – มะพร้าวต้นเดียว (กม.ที่ 3+825 – 5+800) ระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตรถึง 1 เดมตร สาเหตุจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำปัตตานี

 

ที่มา มติชนออนไลน์