สสจ.ภูเก็ต แจงติดเชื้อโอไมครอน 4 ราย ไม่ใช่การระบาดในพื้นที่

ภูเก็ต โควิด

ภูเก็ตยันสวอป RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติ 100% ที่สนามบินภูเก็ต แจง พบโอไมครอน 4 ราย เป็นนักท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ เตรียมบูสเตอร์ชาวภูเก็ตเข็ม 4 ต้นปี’65

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งถาครัฐและเอกชนแถลงข่าวสถานการณ์โอไมครอนในจังหวัดภูเก็ตว่า จากการตรวจพบผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามาภูเก็ต จำนวน 5 คน ในช่วง 13 -14 ธันวาคม 2564 พบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทั้ง 5 คนได้ถูกนำเข้าสถานพยาบาล

โดยขอยืนยันว่า ภูเก็ตตรวจคัดกรองทุกคนที่มาจากต่างประเทศตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาจะไม่ปล่อยให้หลุดรอดออกไปและเมื่อตรวจเรียบร้อยก่อนออกจากสนามบินภูเก็ตมีระยะเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงจึงจะทราบผลว่าเป็นบวกหรือลบจะทำให้เข้าสู่การรักษาได้เร็วที่สุด และทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันให้ภูเก็ตตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR ที่สนามบินภูเก็ตต่อไป

“เราพยายามตรวจให้รวดเร็วยังยึดถือมาตรฐานนี้ การเข้ามาของโอไมครอนทาง ศบค.กำหนดทิศทางแล้วอาจมีมาตรการเข้มขึ้นภูเก็ตก็ต้องปฏิบัติตามนั้นเช่นกัน”

ส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจภูเก็ตกำลังเดินหน้าการจัดกิจกรรมเค้าท์ดาวน์และการแข่งขันกีฬา ต่าง ๆ ดำเนินการต่อไปภายใต้มาตรการ Universal Prevention มาตรการส่วนบุคคล มาตรการ Covid Free Setting ยึดนโยบาย ศบค. เป็นหลัก

ทางด้าน นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต มีสถานการณ์ดีขึ้นมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดน้อยลง ขณะนี้อยู่ที่ 40 ราย ในช่วง1-2 วันมานี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเป็นการพบในนักท่องเที่ยว ไม่ได้ระบาดในพื้นที่ ซึ่งที่พบ 5 คน เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มีวัคซีนครบมีผล RT-PCR เป็นลบก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมงและเมื่อมาถึงทำ RT-PCR ที่สนามบินภูเก็ต

ทั้งนี้ ให้ความมั่นใจว่า นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศได้รับการตรวจเชื้อทุกคน รวมทั้งใน 5 คนนี้สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ลงมาที่สนามบินภูเก็ต และให้อยู่ในระบบซีลรูทเดินทางไปโรงแรมที่พักอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ และทีมสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตลงไปตรวจสอบ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ที่ พบตั้งแต่เดย์ศูนย์สามารถขีดวงได้ค่อนข้างชัดเจน คือ 1.คนขับรถ 2.พนักงานโรงแรม 3.กลุ่มที่มาด้วยกันโดยเฉพาะครอบครัวและคนที่นั่งข้าง ๆ

ทางทีมฯได้ลงไปสอบสวนเชิญกลุ่มนี้มากักตัวแล้ว แยกเป็นกลุ่มครอบครัวที่เดินทางมาด้วยกันประมาณ 11 คน ในกลุ่มที่สัมผัสกับคนข้างนอกประมาณเกือบ 20 คน ทั้งหมดได้รับการกักตัวแล้ว เราให้ความสำคัญสุดคือกลุ่มที่เป็นครอบครัวมีความเสี่ยงสูงมีโอกาสที่จะพบเชื้อ ถ้าผลเป็นบวกจะส่งสายพันธุ์ไปตรวจและต้องเฝ้าระวังกลุ่มนี้ เบื้องต้นผลตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ยังเป็นลบ

ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากสคร.11 และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจ้งว่า ใน 5 ตัวอย่างที่ส่งขึ้นไปเป็นเชื้อโอไมครอน 4 คน เป็นชาวต่างชาติ 3 คน เป็นคนไทย 1 คน ทุกคนได้รับการรักษาดูแลเช่นกับผู้ป่วยโควิดทั่วไป

เมื่อมีการระบาดของโอไมครอนในประเทศและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาถ้าตรวจ RT-PCR เป็นบวกจะส่งตรวจคัดแยกสายพันธุ์ทุกคน ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ต ระยะเวลา 7-10 วัน เมื่อพบว่าเป็นโอไมครอน ทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตส่งตัวอย่างเชื้อไปตรวจยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกครั้งใช้ระยะเวลาอีก 2-3 วัน ขอชี้เแจงว่า เราไม่พบโอไมครอนในพื้นที่ภูเก็ต ไม่ต้องตื่นตระหนก ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19

ทางด้าน นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ทั้ง 5 คนที่ได้รับตัวเข้ามาเพิ่งรู้ผลเมื่อวานว่ามี 1 คน ไม่มีเชื้อนั้น ก่อนหน้านี้ได้ ส่งไป รพ.เอกชน 1 แห่งอีก 3 คนเข้าฮอสพิเทล ส่วนอีก 1 คนส่งตัวไปที่ปัตตานีในระบบซีลรูทตามระบบการส่งตัวไปก่อนที่จะรู้ผลว่าเป็นหรือไม่

ส่วนที่อยู่ในฮอสพิเทลทุกคนอยู่ห้องแยกไม่ปะปนกันไม่มีการแพร่เชื้อออกไป ทุกคนเป็นผู้ป่วยสีเขียว อาการสบายดี จะอยู่ให้ครบ 10 วัน ที่กำหนดการรักษาไว้จะติดตามอาการตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ที่เข้ารักษาและจะครบกำหนด 10 วัน ในวันที่ 23 ธันวาคม นี้จะแจ้งความคืบหน้ากันอีกครั้ง

ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดภูเก็ตมีมาตรการเริ่มกระตุ้นวัคซีนเข็ม3ในกลุ่มประชาชนที่ได้แอสตร้าฯ 2 เข็มเกิน 3 เดือนขึ้นไป สามารถกระตุ้นเข็ม 3 เป็นไฟเซอร์หรือโมเดอนาได้ ตอนนี้เริ่มให้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.ภูเก็ตต้องชนะ.com แล้วเป็นการกระตุ้นภูมิให้สูงขึ้นเพื่อสามารถป้องกันทุกสายพันธุ์

ส่วนในเดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มและเข็ม 3 แอสตร้าแล้วนั้นจะครบ 6 เดือนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ดังนั้นเข็ม 4 จะเกิดในภูเก็ตก่อนที่อื่นในประเทศไทย ตั้งแต่หลังปีใหม่ไปผู้ที่ได้วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม บวกแอสตร้าเข็ม 3 แล้วสามารถรับเข็ม 4 เพื่อกระตุ้นเป็นโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์ รับไดัตั้งแต่มกราคมหรือกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป

เพื่อทำให้คนภูเก็ตมีภูมิต้านทานสูงพอที่จะปัองกันโควิดไดัทุกสายพันธุ์ ยืนยันว่า เราเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันคัดกรองชาวต่างชาติที่เข้ามาและมาตรการต่าง ๆ ที่ป้องกันการติดเชื้อลดการแพร่ระบาดในภูเก็ต เราอยู่กับโควิดได้ ผู้ป่วยต้องไม่เกินวันละ 100 คน

ล่าสุดเมื่อวาน (19 ธันวาคม ) มีผู้ป่วยรายใหม่ 44 คน สถานการณ์ในภูเก็ตดีขึ้น และในช่วงปีใหม่ ขอให้ผู้ประกอบการและชาวภูเก็ตช่วยกันระวังตัวการจะเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่ขอใหัคงมาตรการมีระยะห่าง รับประทานอาหารในร้านที่เปิดโล่ง เพื่อให้บรรยากาศการท่องเที่ยวภูเก็ตดำเนินต่อไปได้

ทางด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทราบกันดีแล้วว่าวันหนึ่งจะต้องพบเหมือนเดลต้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าสนามบินภูเก็ต จะได้รับการสวอปที่สนามบิน 100%

พี่เราจะรู้ตั้งแต่วันแรกที่เขาเป็นโควิดหรือไม่ถ้าพบได้นำไปตรวจเริ่มทำกันมาตั้งแต่1ก.ค.64 มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีว่านักท่องเที่ยวไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้เป็นการระบาดในพื้นที่ ขอบคุณสนามบินภูเก็ตและสคร.11ที่บริหารจัดการอย่างดี

ข้อมูลจากสนามบินภูเก็ต แจ้งว่า เมื่อ 18 ธันวาคม 2564 มีผู้โดยสารเข้ามาภูเก็ต จำนวน 4,487 คน เป็นนิวไฮของภูเก็ตในรอบ 20 เดือน เป็นข่าวดีมากมั่นใจว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะมีผู้โดยสารจากต่างชาติเข้ามาไม่น้อยกว่า 80,000 คนเพิ่มจากเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 2.2 เท่า เราทำมาถูกทางแลัว ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกการจอง เฉลี่ยจากนี้ไปจะเข้ามาวันละ 2,000 พันคน ส่วนคนไทยเข้ามาภูเก็ตเยอะมาก

โอไมครอน คือ สายพันธุ์ที่อาจจะมีการแพร่เชื้อเร็วขึ้นแต่ไม่รุนแรงกว่าเดลต้าเชื่อมั่นในทีมสาธารณสุขของไทยและเชื่อมั่นในทีมภูเก็ตว่าดูแลได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำกับชาวไทยทุกคนที่เข้ามาภูเก็ตว่าพวกเราจะช่วยกันทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าเที่ยวน่าอยู่กันต่อไป และทราบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะปรับมาตรการหลายอย่าง

เช่น มาตรการ Test & Go ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีโอไมครอนเข้ามาขอสื่อสารไปยังรัฐบาลว่า ภูเก็ตดำเนินทุกอย่างไปด้วยความรอบคอบมีมาตรฐานเป็นประตูรับนักท่องเที่ยวได้เรามีความพร้อมดำเนินต่อไปเชื่อว่าจะควบคุมการระบาดทำให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ และอยากวิงวอนรัฐบาลให้เข้าใจหัวอกคนภูเก็ตที่ทำงานหนักมาโดยตลอด และขอให้ทุกคนอย่าประมาทในการเดินทางท่องเที่ยว ชีวิตจะเดินต่อไปได้