ชาวนาใต้แห่ปรับที่ทำสวนปาล์มราคาที่ดินพุ่งเท่าตัว

ชาวนาภาคใต้หลายจังหวัดแห่ปรับพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน หลังราคาทะยานขึ้นกว่า 10 บาท/กก. ด้านราคาที่ดินสวนปาล์ม จ.นครศรีธรรมราช พุ่งกว่าเท่าตัวจาก 150,000 บาทต่อไร่ เป็น 300,000 บาทต่อไร่ เผยเจ้าของที่นารายใหญ่ส่งสัญญาณ หวั่น “ชาวนา” ติดกับดักราคาปาล์มน้ำมัน หากราคาปาล์มร่วงจะกลับมาทำนายาก

เจ้าของที่นาปลูกข้าวรายใหญ่ของภาคใต้เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 จนขึ้นไปสูงถึง 12 บาท/กก. แม้ล่าสุดราคาจะเคลื่อนไหวลงมาประมาณ 8 บาท/กก. แต่เกษตรกรยังถือว่าอยู่ในระดับราคาที่ดี ส่งผลให้เกษตรกรที่ทำนาข้าวหลายจังหวัดได้เปลี่ยนที่นาข้าวมาพัฒนาเป็นสวนปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวรายใหญ่ทางภาคใต้ ขณะที่อีกด้านมีความเคลื่อนไหวจากเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันประกาศขายที่ดินจากราคา 150,000 บาท/ไร่ ได้ขยับขึ้นมาถึง 300,000 บาท/ไร่ เช่น สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

“คนที่บอกขายที่ดินสวนปาล์มตอนนี้ได้ราคาดี เพราะผลผลิตปาล์มน้ำมันราคาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสวนปาล์มเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เท่าที่ทราบผู้ซื้อสวนปาล์มน้ำมันเป็นกลุ่มคนเงินเย็น คนที่ได้เงินเกษียณไม่รู้จะนำเงินไปลงทุนอะไร นำมาลงทุนซื้อสวนปาล์ม แต่หากมองระยะยาวผู้ลงทุนทำสวนปาล์มน้ำมันทิศทางอนาคตอาจจะเกิดความเสี่ยงได้ เพราะปาล์มน้ำมันเหมือนพืชเกษตรทั่วไป ราคาขึ้น-ลงไม่เสถียร และตอนนี้ราคาเริ่มปรับตัวลงแล้ว อาจจะหล่นมาเหลือ 3 บาท/กก. เหมือนในอดีตก็มีความเป็นไปได้ หากมีการแห่ปลูกกันเพิ่มขึ้น เกษตรกรไทยพอพืชตัวใดราคาดีจะแห่ไปปลูกกันจนล้นตลาด และอนาคตต่างประเทศจะใช้น้ำมันปาล์มลดลง

ทั้งนี้ เท่าที่ทราบราคามาตรฐานปาล์มน้ำมันโลกจะเคลื่อนอยู่ที่ 3-4-5 บาท/กก.ไม่เกินนี้ สำหรับชาวนาข้าวที่จะหันไปลงทุนสวนปาล์มน้ำมันแล้วทิ้งนาข้าว หวั่นวิตกว่าจะติดกับดักได้เมื่อพบสภาพนี้ จึงอยากให้ชาวนาพิจารณาในอนาคต หากราคาต่ำแล้วจะหันไปโค่นปาล์มน้ำมันทิ้งแล้วหันมาทำนาเหมือนเดิมคงเป็นไปได้ยาก” แหล่งข่าวกล่าว

นายสุทธิชัย กาฬสุวรรณ นายกสมาคมผู้ผลิตและค้าข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้นาข้าวทางภาคใต้โดยเฉพาะ จ.พัทลุง ได้ถูกสวนปาล์มน้ำมันแชร์ไปแล้วปริมาณมาก สาเหตุเพราะว่าปาล์มน้ำมันราคาสูง 11 บาท/กก.จึงเป็นแรงจูงใจ ตอนนี้ จ.พัทลุง พลิกพื้นที่ทำนา ยกร่องลงทุนปลูกทำสวนปาล์มน้ำมันกันมากขึ้น ขณะนี้นาข้าว จ.พัทลุง มีประมาณ 120,000 ไร่ ประมาณการว่าปีหน้า 2566 จะเหลือที่นาข้าวอยู่ประมาณ 100,000 ไร่

ด้านนายสมศักดิ์ พานิช เจ้าของโรงสีข้าวทิพย์พานิช และประธานชมรม
โรงสีข้าว อ.ระโนด จ.สงขลา และเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน อ.ระโนด จ.สงขลา กล่าวว่า สำหรับฝั่งคาบสมุทรสทิงพระ มี อ.ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ และ อ.สิงหนคร ซึ่ง อ.ระโนดซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันรายใหญ่ มีการขยายปลูกปาล์มน้ำมันประมาณ 5,000 ไร่ ในปี 2564 ตั้งแต่ราคาปาล์มน้ำมันปรับราคาสูงขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 โดยปรับมาจากนาข้าว เพราะจากแรงจูงใจที่ราคาดีเพราะว่าเฝ้ารอราคาข้าวไม่ไหวส่งผลให้พื้นที่นาข้าวต้องหดหายไปบางส่วน

“แต่ตอนนี้ปรากฏว่าปาล์มน้ำมันมาอยู่ที่ 7.70 บาท/กก. จากราคา 11.70 บาท/กก. ก่อนเทศกาลตรุษจีน หลังเทศกาลตรุษจีนร่วงลงมา”

นายสมศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนราคาที่ดินสวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดสงขลาปกติเคลื่อนไหวประมาณ 150,000-180,000 บาท/ไร่ แต่การบอกขายในราคา 250,000 บาท/ไร่ ในขนาดพื้นที่สวนตั้งแต่ 10-50-60-70 ไร่ สาเหตุที่สวนปาล์มน้ำมันขยับขึ้นเป็นผลพวงมาจากการปรับราคาปาล์มน้ำมันดิบ


นายสมศักดิ์กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2546 ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันยังอยู่ที่ 2.80 บาท/กก. และค่อย ๆ ปรับขึ้นมา สาเหตุจากปริมาณผลผลิตน้อย ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปน้ำมันปาล์มรายใหญ่แข่งขันกันแย่งซื้อ โดยเสนอราคาที่สูงโดยเฉพาะการเสนอราคาซื้อที่สวนปาล์ม จ.กระบี่ และ จ.สุราษฎร์ธานี