ท่องเที่ยวตราดอัดอีเวนต์ปี 2565 โรงแรมใหญ่ดัมพ์ราคาแข่งดุ

ธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด กระทบหนัก ภาคเอกชนผนึกภาครัฐเตรียมจัดกิจกรรมระยะสั้น-ระยะยาว ดึงนักท่องเที่ยวตลอดปี 2565 เดือนเมษายน-พฤศจิกายน จี้รัฐเร่งประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น หวังไฮซีซั่นปลายปีเศรษฐกิจฟื้นตัว

นายสัคศิษฐ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ยอดจองเต็มเกือบทุกโรงแรมประมาณ 80% แต่หลังเทศกาลสงกรานต์จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น มีความกังวลว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาลำบากอีก

ดังนั้นเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว ทางสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตราดจึงได้ร่วมกับทางภาครัฐ และภาคเอกชน วางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการกำหนดจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี 2565

โดยทาง ททท.จะเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงาน ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา โดยแต่ละกิจกรรมไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดมากเพียงใด แต่มองว่าจะมีคนเข้าร่วมกิจกรรมมากน้อยเพียงใด

“ตอนนี้ธุรกิจท่องเที่ยวค่อนข้างซบเซา ก็หวังว่าผู้ประกอบการทั้งหมดจะช่วยเหลือกัน ประคับประคองกันไป อยากให้รัฐบาลเร่งให้มีการประกาศโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีพต่อไปได้ ซึ่งคาดหวังว่ามันจะกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวัน

“เพราะปัจจุบันประชาชนในชุมชนแทบจะไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากยังกลัวโรคและเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ประชาชนไม่มีเงินในกระเป๋า พนักงานโรงแรมหลังเลิกงานไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะถ้าหากติดเชื้อรายได้ก็หาย ต้องรักษาตัว

“สิ่งเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจเดินได้ช้ามาก อย่างไรก็ตาม คิดว่าไม่ถึงสิ้นปีนี้ทุกอย่างน่าจะจบ ไฮซีซั่นเศรษฐกิจน่าจะดีเริ่มทำธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

อัดอีเวนต์ตั้งแต่สงกรานต์ถึงปลายปี ดึงดูดกิจกรรมท่องเที่ยว

สำหรับกิจกรรมระยะสั้นตลอดปี 2565 เช่น เดือนเมษายน 2565 จะมีการจัดกิจกรรมกีฬา “ปั่นแรลลี่ชะนีเกาะช้าง” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2564 โดยมีไฮไลต์คือการกินทุเรียนชะนี ที่มีไอโอดีนสูง 1 เดียวในประเทศไทย

รวมถึงมีกิจกรรมงานเปิดฤดูผลไม้, เดือนพฤษภาคม 2565 จะมีการจัดกิจกรรมบนเกาะหมาก โดยมีชื่อว่า “เกาะหมากเซ็กซี่รัน” โดยมีไฮไลต์คือวิ่งเลียบชายหาด และการจัดคอนเสิร์ตบริเวณสะพานอ่าวนิตย์ ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 400 คน

เดือนมิถุนายน 2565 จะมีการจัดกิจกรรม “เกาะช้างรัน” มีระยะทาง 12 กิโลเมตร และระยะทาง 5.9 กิโลเมตร รวมถึงกิจกรรมคอนเสิร์ต ตั้งเป้าไว้ประมาณ 1,000 คน

เดือนตุลาคม 2565 จะมีกิจกรรมเก็บขยะกลางทะเลที่เกาะช้าง โดยจะใช้คยักและซัพบอร์ด ออกไปเก็บขยะที่ลอยมาจากที่อื่นเพื่อคัดแยกและกำจัด โดยมีการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5 ตัน และเดือนพฤศจิกายน 2565 จะมีการจัดกิจกรรมไลฟ์แอนด์ซาวนด์ และเทศกาลลอยกระทง ที่พระจมน้ำ เขาระกำ จ.ตราด

ส่วนแผนระยะยาวหลังจากสามารถเปิดด่านชายแดนได้ และมีการประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น กำลังเตรียมการจัดทำโครงการ “เกาะช้างทูเก็ตเตอร์” อีกรอบ เพื่อทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และต่อไปในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างภาค

โดยจะเดินสายโรดโชว์ เทเบิล ท็อป เซล (Roadshow Table Top sale) โดยให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 ภาค ได้แลกเปลี่ยนเรื่องการขายสินค้าและเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวเพื่อขยายตลาดเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภาคตะวันออก

ขณะเดียวกัน มาตรการหรือโครงการที่รัฐบาลมาสนับสนุน เช่น เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 โรงแรมที่อยู่บนเกาะช้างหลายแห่งพบปัญหาค้างชำระเป็นมูลค่าค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ประกอบการต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการคงเข้าร่วมโครงการต่อเพื่อสนองนโยบายของภาครัฐ เพราะถ้ามีการคัดค้านทุกอย่างที่ทำจะล้มเหลว

เกาะช้างรายได้ลดเหลือ 30%

นายสัคศิษฐ์กล่าวต่อไปว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบนเกาะช้างมีโรงแรมและโฮมสเตย์ทั้งหมด 400 กว่าแห่ง สภาพเศรษฐกิจจากที่เคยมีรายได้เต็ม 100% ตอนนี้ลดลงเหลือ 30%

ผู้ประกอบการลดราคาห้องพัก เช่น จากเดิมห้องพัก 10,000 บาท/คืน ลดลงเหลือ 2,000-3,000 บาท/คืน ทำให้ฟื้นตัวได้ยาก เพราะรายได้น้อยลง จากเดิมอำเภอเกาะช้างรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงการตลาดทั้งหมด กลายเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยมาอันดับ 1

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง ประมาณ 700 คน เกาะกูด 400 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีโรคโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาขั้นต่ำประมาณ 3,000-4,000 คน/วัน

“เกาะช้างถือว่าเป็นเมืองหลวงของการท่องเที่ยวในจังหวัดและติดอันดับ 2 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในส่วนของการท่องเที่ยวเมืองรอง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักเกาะช้างค่อนข้างมาก แต่ละปีมีรายได้กว่า 20,000 ล้านบาท

“แต่โดยภาพรวมปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แม้ทางภาครัฐจะส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นักท่องเที่ยวบูมกลับมาที่เดิม

“อุปสรรคที่สำคัญคือโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทำให้การเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาไม่ได้ ก่อนที่จะมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้มีการวางแผนการตลาดเพื่อบุกตลาดรัสเซีย แต่พอเกิดภาวะสงคราม เราก็เหมือนตกม้าตาย ต้องหันมามองการตลาดในเมืองไทย


“ตอนนี้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่ ลดราคามาอยู่ระดับกลาง ทำให้โรงแรมระดับกลางอยู่ยากเพราะต้องลดราคาลงมาเทียบกับโรงแรมขนาดเล็ก ทำให้เงินทุนหมุนเวียนลดลงไปเรื่อย ๆ” นายสัคศิษฐ์กล่าว