ศรีมาลา พรรณเชษฐ์ ทุ่ม 1.5 พันล้านผุดบ้านหรูเชียงใหม่

ศรีมาลา พรรณเชษฐ์
สัมภาษณ์

แบรนด์ “มาลาดา” (MALADA) โครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทุนท้องถิ่นเชียงใหม่ ปักหมุดพัฒนาโครงการในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา กว่า 600 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ล่าสุดยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง “ศรีมาลา พรรณเชษฐ์” CEO มาลาดา ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการลงทุน หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย

เปิดแผนลงทุน 1.5 พันล้าน

กลุ่มมาลาดาเริ่มทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จำนวน 5 โครงการ กว่า 600 ยูนิตโดยจับทุกโปรดักต์ ได้แก่ บ้านเดี่ยวย่านอำเภอแม่ริม, โครงการมาลาดาโฮมแอนด์รีสอร์ท-บ้านเดี่ยว-อาคารพาณิชย์ย่านแยกสะเมิง-คลองชลประทานใกล้พืชสวนโลก, โครงการ M Town อาคารพาณิชย์บนถนนเลียบคลองชลประทาน, โครงการเพลย์ คอนโดมิเนียม บาย มาลาดา (PLAY CONDOMINIUM) บนถนนห้วยแก้ว และโครงการ Malada Maz ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ย่านอำเภอหางดง มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ล้านบาท

ล่าสุดโครงการ “มาลาดา แกรนด์คูลี่” (MALADA Grand Coulee) เป็นโครงการลำดับที่ 6 ของกลุ่มมาลาดา เป็นโครงการแนวราบตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ติดถนนเชียงใหม่-สันกำแพงสายใหม่ (กม.8) พื้นที่โครงการทั้งหมด 54 ไร่ มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยได้เริ่มพัฒนาโครงการตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ที่เป็น real modern เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่ม niche market ที่มีกำลังซื้อสูงและชอบบ้านที่มีดีไซน์ทันสมัย

โครงการทั้งหมด 54 ไร่ ได้ออกแบบวางผังให้มีความเป็นธรรมชาติ มีสวนสีเขียวส่วนกลาง 17 จุด ระบบการเดินสายไฟฟ้าใต้ดิน แบ่งออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรก โซน M-town เป็นอาคารพาณิชย์ จำนวน 29 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 185-200 ตารางเมตร 3 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคา 4 ล้านเศษ สามารถประกอบธุรกิจได้ และเป็นบ้านพักอาศัยได้ในตัว

ส่วนเฟส 2 เป้าหมายรองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวขนาดใหญ่ และฟังก์ชั่นภายในบ้านที่คํานึงถึงการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ เริ่มจาก “มาลาดา แกรนด์” บ้านเดี่ยวระดับลักเซอรี่ จำนวน 58 ยูนิต เป็นบ้าน pool villa พื้นที่ดินเริ่มต้น 48 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยกว่า 257 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว จอดรถได้ 3 คัน

นอกจากนี้ pool villa เป็นบ้านขนาด 3 ชั้น พื้นที่ 69 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว ที่จอดรถ 4 คัน มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง ระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9.9 ล้านบาท และราคาสูงสุดอยู่ที่ 20 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 48-69 ตารางวา ซึ่งบ้านที่ขายดีที่สุดอยู่ที่ระดับราคา 15-20 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้วราว 50% ได้ส่งมอบโอนบ้านให้ลูกค้าไปแล้ว 10 ยูนิต

“เราพัฒนาโครงการนี้ในช่วงที่เกิดโควิดพอดี แต่ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ บ้านระดับไฮเอนด์ คือ กลุ่ม pool villa เติบโตมาพร้อมกับโควิด เพราะกลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่ทำธุรกิจค้าขายที่ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาค้าขายทางออนไลน์ในช่วงโควิด เป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้าที่ขายทางออนไลน์ และผู้ขายตรงผ่านออนไลน์ จัดเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมาก สามารถตัดสินใจซื้อโครงการในราคา 15-20 ล้านบาทได้ทันทีและง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในเชียงใหม่”

สำหรับเฟส 3 MALADA Coulee จำนวนเกือบ 200 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โมเดิร์นสไตล์ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำที่จอดรถ 2 คัน ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 30-53 ตารางวา เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ราคาเริ่มต้น 3.9-6 ล้านบาท ขณะนี้ขายไปแล้วจำนวน 70-80 ยูนิต หรือเกือบ 50%

“ยอดขายอีก 50% ที่เหลือของบ้าน pool villa และ MALADA Coulee จะไม่เร่งรีบในการทำตลาด เพราะมองเห็น real demand มีอยู่จริง แต่อาจยังรอดูสถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจและโควิด ตอนนี้มีสัญญาณบวกคือ ลูกค้าเดินเข้ามาดูโครงการเฉลี่ย 200 คน/เดือน เปรียบเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่แล้ว เข้ามาดูโครงการเฉลี่ย 100 คน/เดือน โดยทางโครงการตั้งเป้าไว้ว่าจะส่งมอบบ้านทั้งหมดทุกเฟสจำนวน 283 ยูนิต ภายใน 2 ปีนี้ โดยสิ้นปี 2565 คาดว่าจะส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้ราว 100 ยูนิต”

Modern J รับ New Normal

แผนในปี 2565 ได้พัฒนาเฟส 4 โซน coulee ภายในโครงการ “มาลาดา แกรนด์คูลี่” เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 20,000-30,000 บาท เป็นบ้านสไตล์ Modern Japanese (Modern J) มูลค่าโครงการราว 150 ล้านบาท ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป สมาชิกในบ้านน้อยลง ทำงานที่บ้านมากขึ้น (WFH) และคนรุ่นใหม่ต้องการบ้านขนาดเล็ก ๆ ดีไซน์ทันสมัย

“ลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนมาก ต้องการบ้านที่เรียบง่าย มีครบทุกฟังก์ชั่น แต่ปัจจุบันไม่มี supply แบบนี้ออกมาเราจึงตัดสินใจทำบ้านราคา 2.99 ล้านบาท และกระแสตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด”

บ้าน Modern J มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 128 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ด้านหน้าทางเข้าลดระดับแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า GENKAN เพื่อดักฝุ่นก่อนเข้าตัวบ้าน พร้อมมุมเก็บรองเท้า โถง double volume 5.6 เมตร เชื่อมต่อชั้น 1 และ 2 กระจกบานใหญ่มองเห็นพื้นที่สวน courtyard หลังบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้สูงสุดถึง 4 ห้องนอน ซึ่งเฟสนี้จะมีบ้านทั้งหมด 60 ยูนิต

ขณะนี้เริ่มเปิดขายโซนแรก 30 ยูนิต มียอดจองแล้ว 21 ยูนิต คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในเดือนนี้ พร้อมส่วนลดและของแถมมูลค่ารวม 150,000 บาท ขณะที่เฟส 2 จะเริ่มเปิดการขายราวเดือนมิถุนายน 2565 และคาดว่าจะส่งมอบบ้านหลังสุดท้ายภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

ลงทุนสวนกระแสรุกฐานใหม่

ช่วงสถานการณ์โควิด 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าต่างประเทศหายไป ทั้งกลุ่มคนจีนและกลุ่มลองสเตย์ แต่เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับลูกค้าคนไทยที่เป็นกลุ่มหลัก โดยเฉพาะลูกค้าในพื้นที่เชียงใหม่ ตลาดมีชะลอไปบ้าง แต่ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา ลูกค้ากลุ่ม real demand เริ่มกลับมาแล้ว จึงเดินหน้าทำโครงการ “มาลาดา แกรนด์คูลี่” อย่างเต็มระบบทุกเฟส

เพราะขณะนี้ supply บ้านในเชียงใหม่ลดลง เพราะผู้ประกอบการชะลอและหยุดการลงทุน จึงเป็นโอกาสที่จะสร้าง supply ใหม่ ๆ มารองรับลูกค้าที่ต้องการบ้านจริง เป็นการลงทุนที่สวนกระแส และคู่แข่งน้อย ประกอบกับธนาคารอนุมัติสินเชื่อในการทำโครงการต่อเนื่อง ทำให้มีความพร้อมเต็มที่ในการพัฒนาโครงการอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับแผนการลงทุนระยะต่อไป เตรียมขยายการลงทุนโครงการแนวราบ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวหลายทำเลในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ โซนซูเปอร์ไฮเวย์ ดอยสะเก็ด สารภี หางดง และแม่ริม ซึ่งบางพื้นที่มีที่ดินเก็บไว้แล้ว โซนแม่โจ้สายใหม่ มีที่ดินเก็บไว้ 20 ไร่ โซนแม่ริม มีที่ดินเก็บไว้ 30 ไร่ และโซนสันกำแพงสายใหม่ 40 ไร่ ส่วนโซนอื่น ๆ อยู่ระหว่างเจรจาซื้อขายที่ดิน

“จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีโอกาสสูงมากในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมืองมีการขยายตัวตลอดเวลา ความต้องการของลูกค้าเป็น real demand ในเชียงใหม่ และภาคเหนือที่ต้องการบ้านจริง และราคาที่ดินยังอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ เช่น เมืองชายทะเลชั้นนำหลายเมือง”

CEO มาลาดาย้ำชัดว่า มาลาดาไม่ชอบเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่จะมีการเติบโตที่สม่ำเสมอ ทำตลาด niche market ที่มีคู่แข่งน้อย ตั้งเป้าสร้างบ้านได้ปีละ 100 หลัง เพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นการเดินทางสายกลางกับก้าวรุกการลงทุนในวันนี้ ที่พร้อมรับการเปิดประเทศ หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย