‘ไทยเบฟ’ เปิดศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค จ.ลำปาง สร้างความแข็งแกร่ง ขึ้นผู้นำระบบขนส่งของอาเซียน

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก จำกัด เปิดศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาคแห่งใหม่ ณ อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เพื่อรองรับการเติบโตและขยายตัวของเศรษฐกิจ และเป็นฐานในการกระจายสินค้าสู่พื้นที่ในภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในระบบการขนส่งของอาเซียนและรองรับการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมและทั่วถึงตามวิสัยทัศน์ 2020

ปัจจุบัน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจโลจิสติกส์ จำกัด รับผิดชอบการขนส่งสินค้าของกลุ่มไทยเบฟ 4,000 ล้านลิตรต่อปี มีศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา (ปี2555) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ปี2556) และจังหวัดลำปาง (ปี 2560) ศูนย์ขนส่งหลัก 2 แห่ง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดกำแพงเพชร และศูนย์ขนส่งย่อย 13 แห่ง โดยมีรถขนส่งสินค้า รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ 18 ล้อ และ 22 ล้อ จำนวน 1,380 คัน ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาระบบบริการขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการขยายฐานการกระจายสินค้าสู่ภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนค่าขนส่งในการกระจายสินค้า ส่งสินค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประกอบธุรกิจสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือต้นทุนในการขนส่งสินค้า ผมได้มีโอกาสทำงานกับหอการค้าไทย และพบว่าต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์กับภาพอุตสาหกรรมในประเทศไทยถือว่ามีอัตราที่สูง หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆในภูมิภาคของเรา โดยรวมอาจจะเฉลี่ยประมาณ 18-26 เปอร์เซนต์ ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการขนส่ง ในกลุ่มไทยเบฟเรามีการขนส่งสินค้าปริมาณมากกว่า1,750 ล้านลิตร และหากรวมเสริมสุขด้วยตัวเลขก็จะอยู่ที่ประมาณ2.4 พันล้านลิตร หรือเฉลี่ยประมาณ 4 หมื่นกว่าเที่ยวในรอบหนึ่งเดือน ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ การขนส่งลำเลียงสินค้า เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ด้าน นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์การกระจายสินค้าภูมิภาคแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 14 ไร่ และมีพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าทั้งสิ้น 8,000 ตารางเมตร สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากถึง 4,284 พาเลท และมีจุดขึ้น-ลงสินค้าสำหรับรถ 6 ล้อ 10 ล้อ 18 ล้อ 22 ล้อ จำนวน 16 จุด พร้อมพื้นที่จอดรถอีก 4,463.16 ตารางเมตร พื้นที่จัดเก็บสินค้ามีการติดตั้งระบบการจัดเก็บสินค้าแบบ Satellite Rack ได้มากขึ้น นอกจากนี้ระบบไฟฟ้าส่องสว่างภายในและภายนอกอาคารทั้งหมดได้รับพลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ 100 เปอร์เซนต์ และใช้ระบบ TOMS Mobile ที่ติดตั้งในมือถือจะทำหน้าที่ระบุจำนวนสินค้าและสถานที่จัดส่ง ทั้งยังสามารรถส่งข้อมูลลตำแหน่งรถและระยะเวลาที่รถจะไปถึงปลายทางได้อย่างแม่นยำ