เครื่องใช้ไฟฟ้าเดือด ปูพรมไลน์อัพพรีเมี่ยมชิงลูกค้า

ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เหมือนว่า การมุ่งจับผู้บริโภคระดับกลาง-พรีเมี่ยมซึ่งมีกำลังซื้อสูง จะเป็นเทรนด์หลักของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ทั้งค่ายญี่ปุ่นและเกาหลีต่างพร้อมใจขนสินค้าระดับพรีเมี่ยมพร้อมจุดขายด้านนวัตกรรมและดีไซน์ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับคู่แข่งแบรนด์จีนที่เบียดเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดแมสด้วยจุดแข็งด้านราคา

จากเทรนด์ที่เกิดขึ้นทำให้ช่องทางจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นเชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เพาเวอร์บาย ต้องปรับตัวตามโดยอัพเกรดพื้นที่ขายและทำเลสาขาเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบสินค้าและกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป รวมถึงแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในไฮเปอร์มาร์เก็ตของบิ๊กซี ที่เดิมก็เน้นลูกค้าระดับแมส ยังต้องลุกขึ้นมาปรับเพิ่มสัดส่วนสินค้าระดับกลางบน พร้อมกลยุทธ์การขายเน้นชูโซลูชั่นมากกว่าราคา

“แดเนียล ปีเตอร์ ลีเซนโก” รองประธานฝ่ายสินค้าอุปโภค บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนเพียง 1% ของรายได้ แต่ก็แสดงถึงช่องว่างสำหรับเติบโตได้อีกมาก จึงตัดสินใจปรับกลยุทธ์หันเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับบน-พรีเมี่ยมตามเทรนด์ของตลาด ทั้งไลน์อัพสินค้าและกลยุทธ์การขาย โดยจับมือกับซัพพลายเออร์ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน และไทย นำสินค้าระดับกลาง-บนเข้ามาวางขายมากขึ้น

พร้อมเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย เน้นความสะดวกเป็นจุดขายแทนประเด็นราคา และจูงใจด้วยการผ่อน 0% ขั้นต่ำ 3,000 บาท และรวมบิลได้เพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเดินหน้ารีโนเวตเพิ่มพื้นที่สำหรับทดลองสินค้าช่วยเน้น โดยจะทยอยปรับใช้ในสาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นปี เพื่อรับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่คาดว่าจะกระเตื้องขึ้น รวมถึงอานิสงส์จากการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งจะมาช่วยกระตุ้นกลุ่มภาพและเสียงในช่วงกลางปี เสริมกับโมเมนตัมที่ตลาดเริ่มฟื้นตัวในช่วงโค้งท้ายของปีที่แล้ว หลังอาศัยกระแสช็อปปิ้งท้ายปีทดลองกลยุทธ์ใหม่นี้ ในงาน “Big C Electronics Solution Fair” ลด…แนะ…ครบ…จบที่เดียวที่บิ๊กซี เมื่อช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา

“เรามีจุดแข็งด้านจำนวนสาขาเฉพาะไฮเปอร์และเอ็กซ์ตร้ามีกว่า 135 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เป็นช่องว่างของคู่แข่ง จึงเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นได้ แม้จะเข้าสู่กระแสนี้ทีหลัง”

เช่นเดียวกับ “เพาเวอร์มอลล์” ที่แม้จะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-พรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ได้เพิ่มความเข้มข้นขึ้นอีกขั้น ด้วยการจับมือพันธมิตรผุดสาขานอกห้างเครือเดอะมอลล์เป็นครั้งแรก เพื่อขยายสาขาออกไปให้ใกล้ชิดกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น หวังดักชิงกำลังซื้อก่อนถึงมือคู่แข่ง

“จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล” ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าเพาเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังมุ่งแข่งขันด้านการเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรมและดีไซน์ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องครัวเริ่มมาแรงเพราะสามารถใส่นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าไปได้มากและดีไซน์พรีเมี่ยม สะท้อนจากยอดขายปีที่แล้วซึ่งเติบโตขึ้น 15% สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ

ด้านผู้บริโภคระดับกลาง-พรีเมี่ยมยังมีกำลังซื้อสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในย่านชานเมืองที่มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรไฮเอนด์ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปเปิดใหม่จำนวนมากอย่างแนวถนนราชพฤกษ์ ซึ่งผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงระดับเกิน 1 แสนบาทต่อใบเสร็จ มากกว่าสาขาอื่น 10-20% แต่ยังมีผู้เล่นในพื้นที่น้อยเพื่อชิงโอกาสนี้ จึงได้จับมือกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ “เอสบี ดีไซน์สแควร์” ลงทุน 50 ล้านบาท เปิดเพาเวอร์มอลล์ในเอสบี ดีไซน์สแควร์ สาขาเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ขนาด 1,200 ตร.ม. เชื่อมต่อแผนกเฟอร์นิเจอร์ตามแผนชูจุดแข็งวันสต็อปช็อปปิ้ง

พร้อมปรับไลน์อัพเน้นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและกลุ่มภาพและเสียงแบบไซซ์ใหญ่ อาทิ ทีวี 60-70 นิ้ว รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กจากแบรนด์ระดับไฮเอนด์ที่เด่นด้านดีไซน์และนวัตกรรม เช่น ไดสัน, เนสเพรสโซ เสริมด้วยบริการพรีเมี่ยมอย่าง ส่งสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นรวมกับฐานสมาชิกเอสบี แฟมิลี่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในพื้นที่ซึ่งเป็นกลุ่มขึ้นบ้านใหม่

นอกจากนี้ยังเตรียมขยายสาขานอกห้างสรรพสินค้าเพิ่มอีก ด้วยความพร้อมด้านระบบจัดการและโลจิสติกส์เน้นพื้นที่เขต กทม.เป็นหลัก ด้วยการจับมือกับพันธมิตรมากกว่าโมเดลสแตนด์อะโลน เพื่อเน้นย้ำเรื่องวันสต็อปช็อปปิ้งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย

“ด้วยกลยุทธ์และทำเลที่ได้เปรียบ เชื่อว่าสาขานี้จะมียอดขายเฉลี่ยถึง 300 ล้านบาทต่อปี ตลอดช่วง 1-2 ปีแรก”

จากความเคลื่อนไหวเหล่านี้ฉายแววถึงการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับกลาง-ไฮเอนด์ที่จะดุเดือดขึ้นอีกในปี 2561 นี้