ค้าปลีกฟิลิปปินส์โตพุ่ง ต่างชาติแห่ลงทุนชิงชนชั้นกลาง

คอลัมน์ MARKET MOVE

แม้ช่วงที่ผ่านมาฟิลิปปินส์จะมีเหตุการณ์ไม่สงบเป็นระยะ แต่ภาคค้าปลีกของประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งด้านพื้นที่ที่บรรดาผู้พัฒนาอสังหาฯทุ่มทุนสร้างรวมกว่า 88,000 ตร.ม. เฉพาะช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และจะเพิ่มเป็น 500,000 ตร.ม.ในปีหน้า เพื่อรองรับดีมานด์ของธุรกิจค้าปลีกและอาหาร-เครื่องดื่มที่เข้ามาตั้งฐานหวังชิงดีมานด์จากชนชั้นกลาง ซึ่งขยายตัวและมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังธุรกิจเอาต์ซอร์ซต่างชาติแห่เข้ามาลงทุน

โดยสำนักข่าว อินไซเดอร์ รีเทล เอเชียŽ รายงานว่า ภาคค้าปลีกของฟิลิปปินส์กำลังขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับภาพลักษณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศ เป็นผลจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง ซึ่งคาดว่าจะโต 41.8% ระหว่างปี 2559-2573 เป็น 8.4 ล้านคน พร้อมกับกำลังซื้อเฉลี่ยถึง 11,429 เหรียญสหรัฐต่อคน จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมเอาต์ซอร์ซข้ามชาติ อาทิ คอลเซ็นเตอร์ที่เติบโต 10% ต่อปี จนปีที่แล้วบริษัทต่างชาติโอนเงินเข้ามากว่า 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอุตสาหกรรมนี้เป็นแหล่งรายได้ 1 ใน 3 ของชาวฟิลิปปินส์

โอกาสนี้ดึงดูดให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารอย่าง เดอะไพรม ริปŽ เชนร้านสเต๊กจากสหรัฐ และร้านอาหาร เอเลเมนต์ เฟรชŽ จากจีน ต่อจากคลื่นการรุกตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งทิมฮอร์ตัน, เบเกอร์แอนด์คุก รวมถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ซิมพลี โมดูลาร์จากฮ่องกงและอื่น ๆ เช่นเดียวกับเชนห้างสรรพสินค้า อิเซตันŽ ซึ่งจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น ตั้งโครงการมิกซ์ยูสรวมถึงห้างอิเซตันสาขาแรกบนพื้นที่ขนาด 110,000 ตร.ม. ในเมืองแทกวิกทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา

ขณะเดียวกันผู้พัฒนาอสังหาฯเริ่มขยับตัวลงทุนสร้างพื้นที่ค้าปลีกรับดีมานด์เหล่านี้ ส่วนรายใหญ่อย่างอยาลา แลนด์ (Ayala Land) และเมกาเวิลด์ (Megaworld) เดินหน้าซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มมาเสริมพอร์ตไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้คาดว่าปีหน้าพื้นที่รีเทลจะเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ตร.ม. และจะแตะ 9 ล้าน ตร.ม.ในปี 2563

เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงทั้งโอกาสทางธุรกิจค้าปลีกในฟิลิปปินส์ และแนวโน้มการแข่งขันที่จะดุเดือดยิ่งขึ้นจากการแข่งขันของผู้เล่นจำนวนมาก