“ยูนิโคล่” ผุดสแตนด์อะโลน โตนอกห้างปักธงพัฒนาการ

“ยูนิโคล่” เปิดโมเดลใหม่ “สแตนด์อะโลนนอกห้าง” สาขาแรกในไทย ปักธงพัฒนาการ ชิงกำลังซื้อรอบใหม่ อัดแคมเปญ-โปรโมชั่นปลุกตลาดออฟไลน์-ออนไลน์ไม่หยุด จับมือแบรนด์-ดีไซเนอร์ชื่อดังป้อนคอลเล็กชั่นสุดเก๋ยั่วใจแฟนคลับต่อเนื่อง ก่อนดีเดย์ UNIQLO x Marimekko ปลายเดือนมี.ค.นี้ ด้านบริษัทแม่เล็งนำแบรนด์ใหม่ “GU” เข้ามาอวดโฉมใน 5 ปี

รายงานจากบริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทกำลังพัฒนาร้านโมเดลใหม่ แบบสแตนด์อะโลน เป็นครั้งแรกในไทย โดยปักธงสาขาแรกที่ถนนพัฒนาการ บริเวณซอยพัฒนาการ 58 หน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในช่วงปลายปีผ่านมา ยูนิโคล่เริ่มเปิดรับสมัครพนักงานสาขาดังกล่าวในช่องทางต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์ของตนเอง เว็บไซต์หางาน ฯลฯ โดยระบุถึงชื่อสาขาดังกล่าวว่าเป็น “Roadside พัฒนาการ” หรือสาขาที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนน รับสมัครพนักงานประจำร้านจำนวนมากทั้งแบบเต็มเวลา และพาร์ตไทม์

หลังจากเปิดสาขาแรกเมื่อปี 2544 ปัจจุบันยูนิโคล่มีสาขาทั้งหมด 35 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 21 สาขา และต่างจังหวัด14 สาขา ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบของร้านที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าเป็นหลัก โดยมี 1 สาขาที่เข้าไปเปิดในไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่เทสโก้ โลตัส ภูเก็ต แต่ยังไม่มีรูปแบบร้านที่เปิดข้างนอกห้างมาก่อน

อย่างไรก็ตามผู้บริหารระดับสูงจากยูนิโคล่ เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเปิดให้ครบ 100 สาขาภายในปี 2564 ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวทำให้ยูนิโคล่มองโอกาสจากทุกช่องทางที่มีศักยภาพ

ผู้สื่อข่าวระบุว่า นอกจากการขยายสาขาหน้าร้านอย่างต่อเนื่องแล้ว ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้ารุกตลาดด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ อย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดอีคอมเมิร์ซเมื่อปลายปี 2559 ให้นักช็อปทั่วประเทศสามารถเข้าถึงสินค้าของยูนิโคล่ได้มากขึ้นแม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะยังไม่ได้เข้าไปเปิดสาขา ตลอดจนอำนวยความสะดวก และรองรับพฤติกรรมการช็อปปิ้งของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการทำแคมเปญ โปรโมชั่นลดราคา สินค้าราคาพิเศษ ที่หมุนเวียนจัดทุกอาทิตย์ เช่น ล่าสุด โปรโมชั่น clearance sale สินค้าราคาเริ่มต้น 100 บาท การร่วมมือกับบัตรเครดิต แลกรับเงินคืนสูงสุด 18%

หรือก่อนหน้านี้ที่ส่งแคมเปญแจกรางวัลแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นตลอดจนกลยุทธ์ด้านการพัฒนาสินค้า ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าใหม่ตามปกติ ยังจับมือกับดีไซเนอร์ชื่อดัง หรืออินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ พัฒนาคอลเล็กชั่นร่วมกัน อาทิ คอลเล็กชั่นที่ร่วมกับมาริเมกโกะ แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์จากฟินแลนด์ มีกำหนดวางขาย 30 มีนาคมที่กำลังจะถึงนี้ หรือคอลเล็กชั่นที่ร่วมกับ เจดับเบิ้ลยูแอนเดอร์สัน แบรนด์แฟชั่นจากอังกฤษ เร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ก่อนหน้าเคยมีความร่วมมือกับ KAWS ศิลปินสตรีตอาร์ตจากนิวยอร์ก, ฮานา ทาจิมา ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษเชื้อสายมุสลิม เป็นต้น

รวมไปถึงการแตกไลน์แคทิกอรี่สินค้าใหม่ต่อเนื่อง เช่น ในปีที่ผ่านมานำสินค้าชุดว่ายน้ำเข้ามาจำหน่ายเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดตัวสปอร์ตแวร์ เสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกาย จุดเด่นคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาใส่ในผลิตภัณฑ์ เช่น ดราย เอ็กซ์ ช่วยซึมซับความชื้น แห้งเร็ว, แอริซึม ช่วยระบายความร้อนได้ดี เย็นสบาย เป็นต้น

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า แบรนด์จียู (GU) ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของยูนิโคล่ มีโพซิชั่นที่เด็กกว่า เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่น และราคาต่ำกว่า (เริ่มต้นประมาณ 300 บาท) มีแผนที่จะขยายสาขาในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ ภายในช่วง 3-5 ปีจากนี้ หลังจากที่แบรนด์ดังกล่าวได้เริ่มขยายในต่างประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2556

ที่ผ่านมา โดยทั้งแบรนด์ยูนิโคล่ และจียู ถือเป็นแบรนด์หลักในเครือของกลุ่มฟาสต์รีเทลลิ่ง (บริษัทแม่) ในญี่ปุ่น ซึ่งมีทิศทางการขยายตัวไปในต่างประเทศอย่างชัดเจน เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชีย ยุโรป อเมริกา ฯลฯ


จนล่าสุด กลุ่มของฟาสต์รีเทลลิ่ง มียอดขายในต่างประเทศแซงหน้าในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยอดขายต่างประเทศในช่วงไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2561 (กันยายน-พฤศจิกายน 2560) ที่ผ่านมาอยู่ที่ 258 พันล้านเยน หรือประมาณ 7.4 หมื่นล้านบาท มากกว่ายอดขายในประเทศกว่าพันล้านเยน ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ “ทาดาชิ ยาไน” ผู้ก่อตั้งที่ต้องการผลักดันยูนิโคล่ขึ้นเป็นแบรนด์แฟชั่นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าซาร่า และเอชแอนด์เอ็มหลังจากที่ยูนิโคล่กลายเป็นแบรนด์อันดับ 1ในเอเชียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว