กระแสสุขภาพทำให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เจ็บป่วยน้อยลง เรื่องนี้ย่อมส่งผลต่อธุรกิจสถานพยาบาลที่เดิมมีรายได้จากการรักษาอาการเจ็บป่วย จนหลายรายต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ เครือโรงพยาบาลศิครินทร์ เป็นหนึ่งในรายที่เริ่มปรับตัวทั้งด้านฐานลูกค้า บริการ และสิทธิประโยชน์ที่มุ่งให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “สุริยันต์ โคจรโรจน์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพธุรกิจสุขภาพในปี 2561 นี้ว่า มีแนวโน้มเติบโตจากการระดมทำตลาดของสถานพยาบาลแต่ละรายเพื่อชิงดีมานด์ช่วงกระแสสุขภาพยังแรงต่อเนื่อง
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
โดยกลยุทธ์มาแรงจะเป็นการ มุ่งจับกลุ่มผู้บริโภคที่สุขภาพดี ด้วยการเสนอแพ็กเกจตรวจเช็กสุขภาพรวมถึงบริการให้คำปรึกษา-แนะนำด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการรักษาสุขภาพและมีอายุยืนของผู้บริโภคปัจจุบัน ขณะเดียวกันเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น หลังจากเซ็กเมนต์ผู้ป่วยเริ่มอิ่มตัว
สำหรับเครือศิครินทร์เองเข้าร่วมกระแสนี้เช่นกัน โดยกลยุทธ์หลักของปีนี้โฟกัสทั้งด้านบริการและศักยภาพในการรักษาโรค รวมถึงอัพเกรดระบบสมาชิกเพิ่มความหลากหลายของสิทธิประโยชน์และระบบการตลาดแบบเทลเลอร์เมด เพื่อสร้างจุดเด่นดึงดูดผู้บริโภครายใหม่ พร้อมกับสร้างลอยัลตี้กับลูกค้าปัจจุบันไปพร้อมกัน
การขยายฐานจะเน้นเจาะกลุ่มผู้บริหารชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและยังไม่มีสถานพยาบาลประจำ ด้วยการชูจุดแข็งทั้งด้านทำเลของโรงพยาบาลศิครินทร์ย่านบางนา ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และยังมีฐานลูกค้าองค์กรเป็นบริษัทใหญ่จากญี่ปุ่นหลายราย เช่น บริษัทรถยนต์รายใหญ่ ช่วยสร้างการรับรู้ผ่านการบอกต่อทั้งในและระหว่างองค์กร
ส่วนด้านการรักษาพยาบาล เน้นวันสต็อปเซอร์วิสที่สามารถตรวจและรักษาทุกโรคครบวงจรในแห่งเดียว ซึ่งจากนี้จะขยายให้ครอบคลุมโรคที่มีความซับซ้อนสูง เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่รองรับโรคหัวใจ, หลอดเลือด, ระบบประสาทและเบาหวาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากโรงพยาบาลอื่น ๆ โดยขณะนี้มีความพร้อมด้านจำนวนเตียงรวม 315 เตียง และบุคลากรแล้ว เนื่องจากตึกใหม่แล้วเสร็จและเปิดใช้งานเมื่อไม่นานนี้ รวมถึงยังมีพื้นที่สำหรับขยายได้อีกในอนาคต
“ฐานลูกค้าชาวไทยของเรานับว่าเหนียวแน่นมากแล้ว จึงเริ่มหันมาจับลูกค้าต่างชาติเป็นครั้งแรก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้จาก 5% เป็น 10% เพื่อบาลานซ์รายได้”
อีกไฮไลต์สำคัญจะเป็นการ ยกเครื่องระบบบัตรสมาชิกและลอยัลตี้โปรแกรม โดยมุ่งเพิ่มโปรโมชั่น-สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรในธุรกิจอื่น ๆ ขยายสิทธิประโยชน์ในด้านไลฟ์สไตล์ อาทิ ช็อปปิ้ง ร้านอาหาร แฟชั่นและอื่น ๆ จากเดิมที่เน้นด้านการรักษา-บริการภายในโรงพยาบาล รวมถึงใช้ฐานข้อมูลที่มีมาทำการตลาดแบบเทลเลอร์เมดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละรายมากขึ้น
ล่าสุดจับมือกับ “ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด” ผู้ให้บริการบัตรสมาร์ทการ์ดและ “วีซ่าประเทศไทย” ผู้ให้บริการบัตรเครดิต-เดบิตวีซ่า เพื่อเปิดตัวบัตรสมาชิก “ศิครินทร์ ซิลเวอร์ สมาร์ท” เป็นทั้งบัตรสมาชิกของโรงพยาบาลและบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบพรีเพดในเครือวีซ่า ซึ่งสามารถใช้ชำระค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์วีซ่าทั่วประเทศ รวมถึงเซเว่นอีเลฟเว่นที่เป็นจุดเติมเงิน
นอกจากนี้ เตรียมเปิดระบบสะสมแต้มช่วงไตรมาส 3-4 ของปี สามารถแลกเปลี่ยนแต้มระหว่างผู้ให้บริการแต่ละรายได้อย่างอิสระ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าหลักของโรงพยาบาลซึ่ง 50% เป็นลูกค้าเงินสด และสามารถมีฐานสมาชิกบัตรถึง 1 แสนรายในปีนี้
“พฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว โรงพยาบาลจึงต้องปรับตัวตามให้ทัน ซึ่งเชื่อว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้เครือศิครินทร์ได้เปรียบเหนือคู่แข่ง”