เชสเตอร์ กางแผนเชิงรุกผุดเมนูเอ็กซ์คลูซีฟ ร้านโมเดลใหม่เจาะวัยรุ่น

Chester's เชสเตอร์ ฟู้ด

เชสเตอร์ เปิดฉากทำตลาดเชิงรุกขยายฐานลูกค้าประเดิมผนึก iberry “ไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่” ฉลองครบรอบ 34 ปี  พร้อมทดลองโมเดลใหม่แฟชั่นไอส์แลนด์รับเทรนด์ดีลิเวอรี่ ก่อนผุด 20 สาขาปีหน้า หลังปรับโฉมลดอายุแบรนด์ หวังจับคนรุ่นใหม่

วันที่ 6 ตุลาคม 2565 นางสาวลลนา บุญงามศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ ฟู้ด จำกัด ผู้บริการเชนร้าน Chester’s กล่าวว่า ช่วงโค้งท้ายปี 2565 และปี 2566 จะเน้นทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการขยายสาขาเพิ่ม ทดลองร้านโมเดลใหม่ ระดมออกเมนูอาหารใหม่ ๆ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปในผู้บริโภครุ่นใหม่และพื้นที่ต่างจังหวัด

ทั้งนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบในช่วงตลาดฟื้นตัวจากโควิด-19 และรับมือตลาดร้านอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะสถานการณ์โรคระบาด

ทดลอง Grab & Go โมเดลใหม่ ต.ค.นี้

นางสาวลลนากล่าวว่า ในเดือนตุลาคม 2565 นี้จะทดลองร้านโมเดล Grab&Go แบบใหม่ ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ โดยต่อยอดมาจากโมเดลเฉพาะกิจในช่วงล็อกดาวน์ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยประคองรายได้ของบริษัทในช่วงโควิดให้ทรงตัวอยู่ได้

โมเดลใหม่นี้จะเป็นร้านไซซ์เล็ก 10-20 ตร.ม. ไม่มีที่นั่งทาน คล้ายที่เปิดช่วงล็อกดาวน์ แต่จะแตกต่างตรงที่มีเมนูอาหารมากขึ้นเป็นมากกว่า 20 เมนู หรือเกือบเท่าสาขาปกติ ในขณะที่สาขา Grab&Go เดิมมีประมาณ 3-4 เมนูเท่านั้น

เพื่อตอบโจทย์กระแสนิยมสั่งอาหารผ่านแอป ที่ยังคงแรงต่อเนื่องแม้ผ่อนคลายโควิดแล้ว สะท้อนจากยอดขายผ่านดีลิเวอรี่ที่ยังสูงถึง 50% ทั้งที่ก่อนโควิด-19 ระบาดมีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น สะท้อนว่ากระแสความนิยมนี้ยังคงอยู่

โดยหากประสบความสำเร็จจะสปีดสาขาโมเดลนี้เพิ่มในระดับหลายสิบสาขา เน้นเจาะทำเลที่ยังไม่มีร้าน Chester’s

ปี 2566 อัดงบฯเพิ่ม 30% ทำตลาดเชิงรุก

นอกจากทดลองโมเดลใหม่ช่วงปลายปีนี้แล้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ ฟู้ด ยังระบุว่า ในปี 2566 มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขาไม่รวม Grab & Go โดยจะเป็นโมเดลปกติ ขนาดไซซ์กลาง ประมาณ 100 ตร.ม. หรือ 30-40 ที่นั่ง เน้นทำเลในต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่เพียง 30% ของพื้นที่

พร้อมเพิ่มงบฯการตลาดอีก 30% เพื่อทำกลยุทธ์เชิงรุกไม่ว่าจะเป็น การรัวเปิดตัวเมนูใหม่เดือนเว้นเดือน การสื่อสาร-จัดกิจกรรมผ่านโซเชียล เช่น ติ๊กต๊อก ไลน์ออฟฟิเชียลฯ และอื่น ๆ ด้วยรูปแบบที่เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ ตามเป้าขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่เด็กลง หลังด้วยอายุของแบรนด์ที่เปิดมานาน 34 ปี ทำให้แข็งแกร่งในกลุ่มผู้บริโภควัย 30 บวกอยู่แล้ว

“ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารเปลี่ยนไปมาก ร้านขนาดใหญ่ที่นั่งเยอะอาจไม่จำเป็นแล้ว จึงหันไปโฟกัสที่ความยืดหยุ่นคล่องตัวของการขาย การขยายสาขา และการออกเมนูใหม่ให้ถี่-ไวขึ้นเพื่อสร้างสีสันดึงดูดผู้บริโภคให้มาที่ร้านและเพิ่มโอกาสขาย”

ผนึก iberry เปิดเมนูเอ็กซ์คลูซีฟ

หนึ่งในนั้นคือ การจับมือกับแบรนด์ iberry (ไอเบอร์รี่) เปิดตัว “ไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่” ที่ต่อยอดมาจากเมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยมของร้านอย่าง ไก่ย่างสูตรเผ็ดและข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา ด้วยจุดขายความเผ็ดของซอสน้ำปลา และเมล็ดอัลมอนด์ในเนื้อไอศกรีม

โดยเปิดวางขายแบบจำนวนจำกัดในโอกาสฉลองครบรอบ 34 ปีเชสเตอร์ ในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 ในราคาถ้วยละ 75 บาท เฉพาะนั่งรับประทานที่ร้านเชสเตอร์ พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อจัดคู่เมนูข้าวซิกเนเจอร์ของเชสเตอร์ อย่าง ข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา (สามารถเปลี่ยนเป็นข้าวไก่เผ็ดเชสเตอร์ หรือข้าวอบไก่ย่างได้) เสิร์ฟพร้อมเป๊ปซี่ 16 ออนซ์ 1 แก้ว และไอศกรีมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่ 1 ถ้วย เพียงชุดละ 159 บาท (จากปกติชุดละ 214 บาท)

ทั้งนี้เชื่อว่า การเปิดเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง และการขยายสาขา 12 สาขา รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายในดีลิเวอรี่ในปีนี้ จะทำให้ยอดขายเติบโตจากปีที่แล้วได้ถึง 30% แน่นอน