ช็อปปิ้งไร้เงินสดโดนใจคนรุ่นใหม่ “ซีพี ออลล์” เดินเกมยึดบัลลังก์ค้าปลีก ส่งบัตร “สมาร์ทเพิร์ส” เชื่อมพาร์ตเนอร์-คู่ค้าโตรอบทิศผนึก “วีซ่า” เจาะ 5 แสนร้านค้าทั่ว ปท.ต่อยอดฐานเมมเบอร์เซเว่นฯ 1.3 หมื่นสาขา พร้อมแผนเข้าร่วมบัตรค่าโดยสารรถสาธารณะต่าง ๆ ในอนาคต กลางปีอัพเกรดบัตรเซเว่นการ์ด 4 ล้านใบโฉมใหม่
ไม่เพียงการเร่งผลักดันโครงการใช้จ่ายผ่านระบบ national e-Payment ของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นแล้วนั้น การขยับตัว “สังคมไร้เงินสด” ในภาคเอกชนดูเหมือนจะไปได้เร็วและต่อเนื่อง ตามเทรนด์ของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่และมิลเลนเนียลที่แทบทุกไลฟ์สไตล์ล้วนผูกติดกับมือถือ เช่นเดียวกับยักษ์ค้าปลีก “ซีพี ออลล์” จัดทัพรอบใหม่รับเทรนด์จับจ่ายไร้เงินสด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ฐานลูกค้า 7-11 แน่นปึ้ก
นายเฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจและปฏิบัติการ บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบพรีเพด “สมาร์ทเพิร์ส”, บัตรสมาชิกเงินสด “เซเว่นการ์ด” ในกลุ่มซีพี ออลล์ กล่าวว่า เทรนด์การใช้จ่ายผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ผู้บริโภคให้การยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการห้างร้านต่าง ๆ
สอดคล้องกับกระแสสังคมไร้เงินสดที่ภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดัน ล้วนเป็นโอกาสสำหรับผู้ให้บริการบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเป็นโอกาสของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในฐานะที่เข้ามาในธุรกิจนี้เป็นรายแรก ๆ และมีฐานลูกค้ามากที่สุดในตอนนี้
ผนึก “วีซ่า” โตก้าวกระโดด
นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนาบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้จ่ายในปัจจุบัน ด้วยการจับมือกับ “วีซ่า ประเทศไทย” ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในระบบดิจิทัล พัฒนาระบบการจ่ายเงินร่วมกันเพื่ออัพเกรดบัตรออฟไลน์สมาร์ทเพิร์สเดิมที่ใช้ได้ในไม่กี่ช่องทางสู่การเป็นบัตรออนไลน์ที่ใช้งานได้เหมือนบัตรเครดิต-เดบิต ภายใต้ชื่อ all smart pay VISA prepaid บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบพรีเพด (เติมเงินก่อนใช้งาน) ที่ใช้เป็นบัตรสมาชิกได้ รวมทั้งรองรับการโคแบรนด์กับห้างร้านหรือผู้ประกอบการที่สนใจนำบัตรไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำการตลาด ที่ทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การทำอีคูปอง, อีโวเชอร์, สะสมแต้ม, ทำโคแคมเปญร่วมกัน ฯลฯ ซึ่งบัตรดังกล่าวจะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตรได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สามารถใช้บัตรโฉมใหม่นี้นอกจากจะสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่วันนี้มีกว่า 13,000 สาขา ยังรวมถึงร้านค้าอื่น ๆ กว่า 5 แสนแห่งทั่วประเทศที่เป็นเครือข่ายของ VISA และรองรับความร่วมมืออื่น ๆ ทั้งร้านค้าใหม่ ๆ ตลอดจนการจ่ายค่าโดยสารรถสาธารณะต่าง ๆ ในอนาคต
เชื่อมพาร์ตเนอร์โตรอบทิศ
ผู้บริหารไทยสมาร์ทคาร์ด ขยายความว่า ได้เริ่มใช้บัตร all smart pay VISA prepaid ร่วมกับบัตรสมาชิกของโรงพยาบาลศิครินทร์เป็นรายแรก จากนั้นจะเริ่มอัพเกรดบัตรเซเว่นการ์ดเดิมที่มีผู้ใช้งานอยู่กว่า 4 ล้านใบ ให้เป็นบัตรที่ร่วมกับวีซ่าภายในกลางปีนี้ และจะปรับบัตรนักเรียน-นักศึกษาที่ปัจจุบันมีสถานศึกษาเข้าร่วมกับไทยสมาร์ทคาร์ดกว่า 57 แห่ง ให้เป็นบัตรรูปแบบใหม่นี้ด้วย
“ที่ผ่านมาเราลงทุนพัฒนาระบบให้ปลอดภัยสูงสุด รองรับทรานแซ็กชั่นได้ทั่วประเทศสอดคล้องกับการขยายตัวของเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งตอนนี้เป็นยุคของเครือข่าย จากเดิมที่ลูกค้าใครลูกค้าคนนั้น วันนี้ลูกค้าเราก็มีโอกาสเป็นลูกค้าคนอื่น การร่วมมือกันกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ จึงจะทำให้มีพลังมากขึ้น เข้าถึงฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ขณะที่ผู้ใช้ก็สะดวกมากขึ้นเพราะไม่ต้องพกบัตรหลายใบ แล้วสามารถใช้สะสมแต้มจากพาร์ตเนอร์หลายราย นำแต้มไปใช้ร่วมกันได้ ต่างจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตทั่วไป”
ปัจจุบันลูกค้าหลักของไทยสมาร์ทคาร์ด คือ เซเว่นอีเลฟเว่น และมีลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ ที่ใช้งานบัตรอยู่อีกเกือบ 1 ล้านใบ ในสถาบันการศึกษา เช่น สถาบันปัญญาภิวัฒน์, ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น บัตรคูปองเงินสด Sanrio Hello Kitty House Bangkok ฯลฯ ต่อจากนี้จะเจาะกลุ่มสถานศึกษาและโรงพยาบาลเพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น
ขยาย “บัตร-แอป” โตด้วยกัน
นอกจากนี้ สเต็ปถัดไปเตรียมต่อยอดให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือเพื่อให้เข้ากับยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างอยู่บนอินเทอร์เน็ต ตอบโจทย์ความสะดวกสบายมากขึ้น อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมระบบไอทีหลังบ้านร่วมกับวีซ่า คาดว่าจะได้เห็นภายในปีนี้ หรืออย่างช้าที่สุดปีหน้า
“จากนี้ไปจะสะดวกมากขึ้น เราจะมีทั้งบริการในรูปแบบบัตรและแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยเสริมกัน แอปพลิเคชั่นจะช่วยให้ผู้มีสมาร์ทโฟนสะดวกมากขึ้น ขณะที่บัตรก็ยังสำคัญต่อการรองรับลูกค้าที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์เกิดใช้งานไม่ได้”
สำหรับไทยสมาร์ทคาร์ดเป็นผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินกิจการบัตรเงินสด ภายใต้ชื่อทางการค้า “บัตรสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse)” นอกจากเสมือนเป็นกระเป๋าเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้บัตรสมาร์ทเพิร์สเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดในรูปแบบลอยัลตี้โปรแกรม และบริหารระบบสมาชิกให้กับคู่ค้าและพันธมิตรของบริษัทผู้ออกบัตร
