ฟิตเนสปี 2561 ยังโตแรง-แข่งราคาดุ หลังต่างชาติผุดเพียบ “ฟิตดี ฟิตเนส” เร่งขยายสาขา กทม.-รังสิต รับดีมานด์ พร้อมลอนช์โปรโมชั่นราคาชิงฐานลูกค้า ตจว.
นายวีระเดช ผเด็จพล หุ้นส่วนและผู้จัดการ “ฟิตดี ฟิตเนส” เชนฟิตเนสสัญชาติไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดฟิตเนสยังมีแนวโน้มเติบโตสูง เป็นผลจากเทรนด์สุขภาพที่กระตุ้นดีมานด์ในทุกเซ็กเมนต์ ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั้งไทย-เทศเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น กทม. ปริมณฑล รวมถึงหัวเมือง หวังรับดีมานด์ผู้บริโภคที่เริ่มสนใจออกกำลัง พร้อมชูจุดขายเรื่องราคาประมาณ 1,500-1,800 บาทต่อเดือน ต่ำกว่าเชนใหญ่ ร่วมกลยุทธ์อื่น ๆ เช่น เน้นไซซ์เล็กเพื่อให้สามารถเพิ่มจำนวนสาขาได้เร็วและเจาะชุมชนได้ง่าย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“ปัจจุบันผู้บริโภคเข้าฟิตเนสเพื่อหวังผลด้านสุขภาพมากกว่าเรื่องโชว์ไลฟ์สไตล์เฮลตี้บนโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว ความสะดวกจึงกลายเป็นปัจจัยหลักในการเลือกสมัครฟิตเนส ส่งผลให้ศูนย์ที่เจาะเข้าใกล้แหล่งชุมชนได้มากกว่าคู่แข่งจะได้เปรียบ ส่งผลให้กลยุทธ์ปูพรมโมเดลเล็กแทรกเข้าไปในย่านที่อยู่อาศัยได้รับความนิยม”
ส่งผลให้การแข่งขันชิงฐานสมาชิกและเทรนเนอร์ดุเดือดตามไปด้วย โดยต่างจังหวัดจะแข่งราคาดุเดือดกว่าใน กทม. เนื่องจากสภาพกำลังซื้อยังน้อยเพื่อรับมือปี 2561 นี้ เตรียมขยายสาขาเพิ่มที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โครงการ Be leaf Garden มุ่งรับดีมานด์ผู้บริโภคในพื้นที่ชานเมือง และย้ายสาขาซอยรางน้ำไปที่อาคารวรรณสรณ์ ชั้น 6 เพื่อเพิ่มขนาดศูนย์ให้เพียงพอกับดีมานด์ในพื้นที่ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.พ. ทำให้ปีนี้มีสาขารวม 5 แห่ง คือ ซอยพัฒนาการ 58, ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24, โรงแรมเนวาด้า จังหวัดอุบลราชธานี
ด้านการตลาดเน้นชูจุดขายด้านคุณภาพและการบริการของเทรนเนอร์ ซึ่งทางบริษัทฝึกอบรมเอง ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพการบริการ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยตัดสินใจของลูกค้า และเลี่ยงการแข่งขันชิงตัวเทรนเนอร์ไปพร้อมกัน พร้อมกับโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจ ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส เสริมกับแพ็กเกจที่ยืดหยุ่นตั้งแต่ 1 วัน-1 ปี ราคาเริ่มต้น 199-14,000 บาท และคลาสออกกำลังครบทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ยังสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในแบรนด์ผ่านทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ โดยนำเสนอข่าวสารของแบรนด์และข้อมูลด้านสุขภาพ-ออกกำลัง รวมถึงแอปพลิเคชั่นสุขภาพสำหรับสมาร์ทโฟนระบบไอโอเอสอีกด้วย มั่นใจว่ากลยุทธ์เหล่าจะช่วยให้สามารถรับมือกับผู้เล่นรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอน