อินเด็กซ์ครีเอทีฟปั๊มรายได้ ตปท. บุกตะวันออกกลาง

เกรียงไกร กาญจนโภคิน

“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” มั่นใจอุตฯ อีเวนต์ไทย-เทศฟื้นเกือบ 100% แล้ว คาดเคานต์ดาวน์คึกคักแน่ ส่วนปีหน้าปูพรม 18 โปรเจ็กต์รุกชิงตลาดอีเวนต์ต่างประเทศ ปักธงงานใหญ่ Thailand Mega Fair & Festival ที่ซาอุดีอาระเบีย-คาซัคสถาน ชิงหัวหาดตลาดเกิดใหม่ ด้านในไทยเดินหน้าจัดอีเวนต์ไฮบริดผสานโลกจริง-เสมือน สร้างความแตกต่าง-ดึงนักท่องเที่ยว ปั้นรายได้ก่อนเข้าตลาดเอ็มเอไอ ปี’67

นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการจัดกิจกรรมการตลาดและอีเวนต์กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้อุตสาหกรรมอีเวนต์ของไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนจนกลับมาเกือบ 100% แล้ว ทั้งความเปิดกว้างของมาตรการจัดงานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยอีเวนต์บันเทิงฟื้นกลับมาเต็มที่แล้ว เห็นได้จากงานต่าง ๆ ที่จัดกันคึกคักมาตั้งแต่ 1-2 เดือนก่อน และยาวไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้อีเวนต์ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่คึกคักมากเป็นพิเศษ แม้จะยังไม่เท่าปี 2562 เพราะขาดนักท่องเที่ยว โดยบริษัทได้รับงานจัด
อีเวนท์ต์เคานต์ดาวน์ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว เช่นกัน

ส่วนอีเวนต์ที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว คาดว่าจะทยอยคึกคักขึ้นในปี 2566 ตามความสามารถในการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับวงการอีเวนต์ในต่างประเทศที่โซนตะวันออกกลาง-ตะวันตกกลับสู่ภาวะปกติเต็ม 100% ต่างจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกอย่างจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่กำลังฟื้นตัว
สถานการณ์นี้ไม่เพียงทำให้ดีมานด์การจัดงานอีเวนต์ทั้งในและนอกประเทศเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นโอกาสของผู้จัดอีเวนต์สัญชาติไทยที่จะชิงเข้าเป็นผู้จัดงานระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม อีเวนต์ด้านธุรกิจอย่างงานเทรดแฟร์ หรืองานประชุม-สัมมนานั้น มีโจทย์ท้าทายที่ผู้จัดต้องปรับตัวรับมือ

เนื่องจากช่วงการระบาดธุรกิจล้มหายไปจำนวนมาก ทำให้ผู้ร่วมงานลดลง ขณะเดียวกันการประชุมยังถูกทดแทนด้วยการประชุมออนไลน์ โดยอาจเสริมจุดขายอื่น ๆ เช่น การท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม และอื่น ๆ เข้าไปให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมประชุมรู้สึกคุ้มค่าที่จะเดินทางเข้ามาจัด-ร่วมงานในไทย

“คาดว่าเม็ดเงินในอุตฯ ปี’65 นี้จะอยู่ที่ประมาณ 7-8 พันล้านบาท หรือ 50% ของปี 2562 และปี 2566 จะเพิ่มเป็น 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท หรือ 70-80% ของปี 2562 เนื่องจากกลุ่มงานแฟร์-จัดประชุมยังต้องใช้เวลาฟื้นตัว”

นายเกรียงไกรกล่าวว่า สำหรับทิศทางของกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟฯ ในปี 2566 จะกลับมาเดินหน้าธุรกิจอีเวนต์เต็มที่ เพื่อไปสู่การนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567 ด้วยการโฟกัสสร้างรายได้จากโอนอีเวนต์หรืองานอีเวนต์ที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งจะรุกไปจัดในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลางที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพ

โดยเตรียมจัด 18 งานในหลายประเทศ มีไฮไลต์เป็นงานเทรดแฟร์ Thailand Mega Fair & Festival ซึ่งเน้นนำเสนอประเทศไทยครบทุกแง่มุม แบบจบในงานเดียวทั้งการท่องเที่ยว ค้าขาย สุขภาพ การลงทุน ไปจนถึงซอฟต์พาวเวอร์ต่าง ๆ วางกำหนดการไว้ 2 ครั้งคือ ซาอุดีอาระเบีย ช่วงไตรมาส 4 ที่จะเป็นงานสเกลใหญ่ และคาซัคสถาน ส่วนงานอื่น ๆ จะมีงานวิ่งกิโลรันในสิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น งานเทรดแฟร์ในกัมพูชา เป็นต้น

ส่วนงานในประเทศจะเริ่มรุกเข้าสู่อีเวนต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก เพื่อรับกระแสการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ทำให้เซ็กเมนต์นี้ พร้อมกับนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสร้างประสบการณ์แบบไฮบริด ผสมระหว่างโลกเสมือนและโลกจริงในการชมอีเวนต์ต่าง ๆ รวมถึงการต่อยอดงานเดิม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เมืองโบราณที่สมุทรปราการ ซึ่งจะจัดงานอีก 4 งาน, คีรีมายา เขาใหญ่ และสิงห์ปาร์ค เชียงราย เช่นเดียวกับกลุ่มบิสซิเนส ดีเวลอปเมนต์ หรือการสร้างสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ เวิลด์ เอ็กซ์โป และพิพิธภัณฑ์ย้อนเหตุการณ์ 13 หมูป่า ที่เชียงราย เป็นต้น

ด้านรายได้ปี 2565 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 954 ล้านบาท เติบโต 60% จากปี 2564 หลัง 3 ไตรมาสที่ผ่านมามีรายได้แล้ว 642.48 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 1,295 ล้านบาท ในปี 2566 เช่นเดียวกับกำไรปี 2565 นี้อยู่ที่ 97.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225% จากปีก่อน และคาดว่าปี 2566 จะมีกำไร 116.3 ล้านบาท เติบโต 19%