สถานทูตอังกฤษ…จิ๊กซอว์ใหม่ เซ็นทรัล ผนึกแบรนด์โลกบุกตลาด

ภาพจาก วิกิพีเดีย

ข่าวร้อนแรงในธุรกิจค้าปลีกช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หนีไม่พ้นกลุ่มเซ็นทรัลปิดดีล “สถานทูตอังกฤษ” แบบเบ็ดเสร็จ สำหรับที่ดินแปลงยักษ์ใจกลางเมือง 22 ไร่ ในราคา 420 ล้านปอนด์ หรือราว 19,000 ล้านบาท และส่งผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นไปสูงมาก ๆ เฉลี่ยประมาณ 2 ล้านบาทต่อตารางวา

บิ๊กดีลนี้กลุ่มเซ็นทรัลจับมือกับ Hongkong Land บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของฮ่องกง บริษัทในเครือจาร์ดีน แมธทีสัน สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลที่จะเลี่ยงการลงทุนแบบ “คนเดียว”

แต่จะผนึกกำลังกับ “พาร์ตเนอร์” ที่เก่งและเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อมาต่อยอดและสร้างการเติบโตทางธุรกิจ “วิน-วิน”ซึ่งกลุ่มพาร์ตเนอร์ที่ “ร่วมทุน” ล้วนแต่เป็นระดับโกลบอลและบิ๊กเพลเยอร์ทั้งสิ้น เป็นการเร่งเติบโตรอบทิศของ “กลุ่มเซ็นทรัล” ที่แท็กทีมบริษัทใหญ่ระดับโลกและโลคอล

ไม่เพียงการร่วมทุนครั้งล่าสุดที่ซื้อที่ดินสถานฑูตอังกฤษ 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส แต่ก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุนยักษ์ออนไลน์แดนมังกร “เจดี ดอทคอม” 1.75 หมื่นล้านลุยอีคอมเมิร์ซ จับมือกับเครือดุสิตธานี พัฒนา “มิกซ์ยูส” 1.7 หมื่นล้าน บนถนนพระราม 4-สีลม, ร่วมทุนอสังหาฯมาเลเซีย ไอ-เบอร์ฮาด (I-Berhad) ลงทุน 8.5 พันล้าน ปักธงศูนย์การค้าเซ็นทรัลแห่งแรกในมาเลเซีย

รวมถึงดึงคู่แข่งมาเป็นพาร์ตเนอร์ ด้วยการร่วมทุนยักษ์ค้าปลีกอังกฤษ “เทสโก้ โลตัส” พัฒนาโมเดลใหม่, จับมือทุนท้องถิ่นสยายปีกบุกค้าปลีกเวียดนามด้วยงบฯ 2 หมื่นล้านบาท และลงทุนซื้อกิจการห้างหรูในอิตาลี, เดนมาร์ก และเยอรมนี

แต่ละปี “กลุ่มเซ็นทรัล” ตั้งงบฯลงทุน 4-5 หมื่นล้านบาท สำหรับขยายกิจการและขยายสาขา แต่จำนวนนี้ยังแต่ไม่รวมงบฯ M&A ซื้อกิจการที่บอร์ดบริหารกลุ่มเซ็นทรัลได้ตั้งงบฯพิเศษนี้แยกไว้ต่างหาก

ยึดที่แปลงงามใจกลางเมือง

เมื่อ 10 ปีก่อน กลุ่มเซ็นทรัลเข้าร่วมประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษ 9 ไร่ และคว้าที่แปลงดังกล่าวได้ในราคา 9.5 แสนบาท/ตารางวา ทุบสถิติซื้อขายที่ดินแพงสุดในตอนนั้น และได้ลงทุนสร้างศูนย์การค้าหรู “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ที่ดินแปลงงามที่เพิ่งชนะประมูล 22 ไร่เศษ ราคา 19,000 ล้านบาท เซ็นทรัล และ Hongkong Land มีแผนจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส และเชื่อมการพัฒนาย่านชิดลม-เพลินจิต เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่สมบูรณ์

ก่อนหน้าที่อังกฤษจะประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการ “ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “…ที่ดินแปลงดังกล่าวกลุ่มเซ็นทรัลมีความสนใจและได้เข้าร่วมประมูล ถ้าถามว่าอยากได้ไหม ก็อยากได้ แต่ต้องดูราคาด้วยว่าอยู่ในลิมิตที่เซ็นทรัลจะรับได้ไหม ถ้าได้แล้วจะทำเป็นอะไร คาดว่าจะเป็นโครงการที่ลงทุนครั้งใหญ่และใช้เงินสูงมาก”

“แพลนคร่าว ๆ ถ้าได้ที่ดินแปลงนี้มาจะให้เซ็นทรัลพัฒนา (ซีพีเอ็น) บริษัทพัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ในเครือเป็นแม่งาน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่จะเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของเราซึ่งเราก็อยู่ในตลาดมา 70 ปีแล้ว”

ดึง “คู่แข่ง” มาเป็นพาร์ตเนอร์

เช่นเดียวกับการร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและเทสโก้ โลตัส ยักษ์คู่แข่ง โดยช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาได้ตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัทซินเนอร์จิสติก พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ระหว่างซีพีเอ็น กับบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเท็ม จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท ถือหุ้นเท่ากันบริษัทละ 50% รวมถึงการตอกย้ำยุทธศาสตร์ดิจิทัล เซ็นทราลิตี้ (Digital Centrality) ด้วยการร่วมทุน 17,500 ล้านบาท กับ JD.com ผู้นำอีคอมเมิร์ซ, โลจิสติกส์, ฟินเทค เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ JD.co.th โดยจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาค คู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลให้เป็นออมนิแชนเนลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่จะสามารถเติบโตก้าวกระโดด และมียอดขายในธุรกิจออนไลน์ทั้งกลุ่มมากกว่า 15% ภายใน 5 ปี

ทุ่ม 1.7 หมื่นล้านยึดสีลม

ส่วนบิ๊กโปรเจ็กต์ทำเลทองย่านสีลม-พระราม 4 กลุ่มเซ็นทรัลได้ส่ง “ซีพีเอ็น” ร่วมทุนกับ บมจ.ดุสิตธานี ตั้ง 3 บริษัทร่วมทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มีโรงแรม ที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน บริเวณหัวมุมถนนสีลมและถนนพระราม 4 โดยเช่า 30 ปี และสิทธิในการต่ออายุสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวม 60 ปี งานนี้คาดว่าเซ็นทรัลจะต้องใช้เงินลงทุน 17,393 ล้านบาท และจะทยอยลงทุนต่อเนื่องถึงปี 2567

การเดินหน้าลงทุนทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้างเพื่อสยายปีกธุรกิจรอบทิศสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างการบริหารงานครั้งใหญ่ของเซ็นทรัลเมื่อต้นปี 2560 ที่ดึงผู้บริหารมืออาชีพทั้งคนไทยและต่างประเทศเข้าเสริมทัพ

…นับเป็นเกมเร่งโตของ “เซ็นทรัล” ที่จะมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้