ปัดฝุ่น…เขาค้อทะเลภู สร้างแบรนด์แกร่งติดปีกโกอินเตอร์

คอลัมน์ Biz ว้าววว !

เริ่มต้นจากการมองเห็นโอกาสของสินค้าธรรมชาติที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก จนนำไปสู่การเทกโอเวอร์สินค้าจากธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ “เขาค้อทะเลภู” ต่อจากผู้ก่อตั้งเดิม คือ “สนธิ์ ชมดี” เมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา แล้วนำแบรนด์มาปัดฝุ่น แต่งหน้าแต่งตัว เพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้แบรนด์มีชีวิตชีวามากขึ้น ด้วยระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ “เขาค้อทะเลภู” ก็กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักในวงกว้างมากขึ้น

“นครินทร์ นฤหล้า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ทะเลภู จำกัดผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เขาค้อทะเลภู” เล่าว่า เขาค้อทะเลภู เป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2530 และมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ก่อตั้งเดิมไม่สะดวกจะทำแบรนด์ต่อ ดังนั้น บริษัทได้ตัดสินใจเข้าซื้อแบรนด์ต่อในปี 2559 เพราะมองว่า เขาค้อทะเลภู เป็นแบรนด์ที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากมีฐานลูกค้าเก่าอยู่แล้วจากคุณภาพของสินค้า ช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม และตลาดสินค้าจากธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย

เมื่อสินค้ามีความแข็งแกร่ง แต่แบรนด์อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เพราะไม่เคยทำการตลาดเลย ดังนั้น สิ่งแรกที่ทำ คือ การจัดระบบบริหารจัดการภายใน ปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ให้ทันสมัย สดใส น่าใช้ แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือ สีน้ำตาล ตามด้วยการลดจำนวนแคทิกอรี่ของสินค้า จากเดิมที่มีครอบคลุมทุกประเภท ทั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อค้นหาสินค้าเรือธง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ของใช้บุคคล ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเข้ามาทำตลาด พร้อมกับเดินหน้าโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง

ด้วยระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ ก็ทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ เขาค้อทะเลภู และมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งร้านเซเว่นอีเลฟเว่น แม็กซ์แวลู เดอะมอลล์ ตำรับไทย เป็นต้น

“การหยิบแบรนด์เก่ามาปัดฝุ่นใหม่ และทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จมาจากคุณภาพที่ดีของสินค้า ประกอบกับทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และวางราคาสัมผัสได้ถูกกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบรนด์อื่น ๆ เนื่องจากบริษัทมีการเซ็นทำสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวจากเกษตรกร และมีโรงงานผลิตเอง ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันอีกแรง”

สำหรับปีนี้เตรียมออกสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม จะเตรียมออกแชมพู 4 สูตรใหม่ จากปัจจุบันมีอยู่ 5 สูตร รวมถึงจะเพิ่มขนาดของแชมพูให้หลากหลายขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ขณะที่เป้าหมายจากนี้ไป “นครินทร์” บอกว่า ยังคงโฟกัสที่ตลาดไทยโดยจะเดินหน้าทำการตลาดเพื่อสื่อสารแบรนด์อย่างจริงจังมากขึ้น สร้างให้แบรนด์มีความแข็งแกร่ง คาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ไปจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในไทยให้ได้ ส่วนสเต็ปต่อไปก็จะขยายการเติบโตไปยังตลาดต่างประเทศ

“การเปิดตลาดใหม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งการลงทุน บุคลากร ซึ่งในฐานะเอสเอ็มอี เรามีทรัพยากรจำกัด มีเงินลงทุนไม่มาก ดังนั้น ต้องโฟกัสว่าจะเดินหน้าอย่างไร แล้วปักธงไปที่ตลาดไหนซึ่งเราเลือกที่จะเป็นผู้นำในตลาดไทยให้ได้ก่อน”

“นครินทร์” ขยายความว่า เมื่อเป็นผู้นำในตลาดสินค้าธรรมชาติในไทยแล้ว การขยายตลาดต่างประเทศก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเรายังไม่เร่งปักธงในตลาดไทยตอนนี้ก็อาจจะเสียโอกาสทางธุรกิจมากกว่าเขาทิ้งท้ายว่าแม้จะไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ แต่ก็ยังเดินหน้าตามเจตนาของเจ้าของแบรนด์เดิม นั่นคือ การคัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติ มาสร้างสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่คนไทยได้ใช้