เงินเฟ้อเป็นเหตุ แมคโดนัลด์ ควัก 150 ล้านดอลล์ ช่วยแฟรนไชส์ซียุโรป

แมคโดนัลด์ เตรียมให้ความช่วยเหลือมูลค่า 100-150 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่แฟรนไชส์ซีในยุโรป เพื่อรับมือปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมเร่งสปีดผุด 1,900 สาขาทั่วโลก

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 แมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยผลประกอบการปี 2565 และทิศทางธุรกิจปี 2566 ระบุว่า เงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยท้าทายในปีนี้ โดยแม้จะมีผลในระยะสั้นแต่จะส่งผลรุนแรงกับเหล่าแฟรนไชส์ซี โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปเพราะต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบอาหารที่สูงขึ้นอาจทำให้กระแสเงินสดมีปัญหา

ด้วยเหตุนี้ ยักษ์ฟาสต์ฟู้ดจึงประกาศแผนช่วยเหลือแฟรนไชส์ซีในยุโรป โดย “เอียน บอเดน” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ระบุว่า เตรียมงบฯ 100-150 ล้านกอลลาร์สหรัฐสำหรับช่วยเหลือแบบชั่วคราวและเจาะจงเฉพาะราย

สปีด 1,900 สาขา

ด้านทิศทางธุรกิจในปี 2566 นี้ “คริส เคมป์ซินสกี” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า จะโฟกัสการขยายสาขาทั้งที่บริษัทบริหารเองและของแฟรนไชส์ซี โดยคาดว่าจะสามารถขยายสาขาใหม่เพิ่มได้ 1,900 สาขา แบ่งเป็นสาขาของบริษัทประมาณ 400 สาขา และของแฟรนไชส์ซีประมาณ 1,500 สาขา ตามเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ให้มากกว่าปีที่แล้วอย่างน้อย 100 สาขา

ปี ’65 โตพุ่งทุกตลาด

สำหรับผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมานั้น ตามรายงานผลประกอบการของ แมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่นระบุว่า ยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.6%

แบ่งเป็นตลาดสหรัฐอเมริกาโต 10.3% จากการขึ้นราคาอาหาร จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตของช่องทางดิจิทัล-ดีลิเวอรี่

ตลาดต่างประเทศที่บริษัทบริหารเองโต 12.6% เป็นจากการเติบโตของธุรกิจในเยอรมันนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส

ตลาดต่างประเทศที่แฟรนไชส์ซีบริหารโต 16.5% ด้วยผลงานที่โดดเด่นในตลาดญี่ปุ่นและบราซิล ส่วนตลาดจีดหดตัว เนื่องจากมาตรการโควิด-19

อย่างไรก็ตามความผันผวนของค่าเงินกระทบผลประกอบการของยักษ์ฟาสต์ฟู้ดค่อนข้างมาก โดยส่งผลให้ผลประกอบการลดลง โดยเฉพาะรายได้จากการดำเนินงานรวมซึ่งโต 3% นั้นหลังคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว จะกลายเป็นติดลบ 10% เช่นเดียวกับยอดขายรวมทุกช่องทางที่เติบโต 11% และรายได้รวมที่เติบโต 6% แต่เมื่อคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแล้วจะเหลือเติบโต 5%, 0% ตามลำดับ