นับถอยหลังฉลอง “วาเลนไทน์” เปิดหัวใจสองคู่รักนักขับ (แกร็บ) ที่พัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนร่วมอาชีพ จนกลายเป็นคนรู้ใจ แถมครองรักยืนยาวมากว่า 30 ปี
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เชื่อว่าหลายคนที่กำลังมีความรักคงมีโลกเป็นสีชมพู เพื่อต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ในปีนี้ “แกร็บ ประเทศไทย” ชวนทุกคนมาสัมผัสเรื่องราวความรักของพาร์ตเนอร์คนขับ แกร็บ 2 คู่ “แอน-กรกช ภูมิสถิตย์พงษ์” และ “แซก-อุทิศ แสงรุ่ง” คู่รักนักขับที่พัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนร่วมอาชีพ จนกลายเป็นคนรู้ใจ และ “คุณตาแดง-พีรพล อังควานิช” และ “คุณยายน้อง-สุธิรา อังควานิช” คู่รักวัยเกษียณ ที่ครองรักยืนยาวมากว่า 30 ปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“อินเลิฟ” เพราะออนไลน์
“แอน-กรกช” วัย 48 ปี และ “แซก-อุทิศ” วัย 45 ปี สองพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บคาร์ รู้จักกันครั้งแรกผ่านคอมมิวนิตี้ในกลุ่มคนขับ ด้วยความบังเอิญที่มีเรื่องราวในชีวิตเหมือนกันหลายด้าน ทั้งเกิดวันเดียวกัน ชอบทีมฟุตบอลเดียวกัน และรับบทพ่อ และแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงลูกเพียงลำพังเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว สานสัมพันธ์จนกลายเป็นคู่รัก
“แอน” เล่าว่า เริ่มขับแกร็บคาร์ ตั้งแต่ปี 2558 เพราะต้องหาเลี้ยงครอบครัว และลูกคนเดียว โดยแต่เดิมเรียนจบเศรษฐศาสตร์ และทำงานด้านไฟแนนซ์มาตลอดชีวิต แต่ด้วยความที่ชอบขับรถมาก ขับมาตั้งแต่เด็ก ๆ พออิ่มตัวจากงานประจำจึงมองหาอาชีพที่เหมาะกับความชอบ และทำเงินได้ จนมาลงตัวในการขับรถกับแกร็บ เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องรายได้ มีอิสรภาพ และมีเวลาดูแลครอบครัวได้ด้วย
“ตอนขับแรก ๆ ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ เลยลองสมัครเข้ากรุ๊ปคนขับบน Facebook เป็นโอกาสให้ได้ทำความรู้จักเพื่อนร่วมอาชีพ มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ คอยแนะนำ ให้คำปรึกษา แบ่งปันความรู้ และเทคนิคต่าง ๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจ และเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ได้มารู้จักกับแซก มีวันนึง เขาโพสต์ภาพตัวเองว่าได้รับของขวัญวันเกิดจากลูกค้า ทำให้เห็นว่าเราเกิดวันเดียวเดือนเดียวกัน (30 ธันวาคม) เลยเข้าไปคอมเมนต์ใต้ภาพ จากนั้นเขาก็ทักมา และเริ่มต้นพูดคุยกันจนพัฒนาความสัมพันธ์กลายมาเป็นแฟนกันจนถึงตอนนี้”
“แซก” เสริมว่า ตนเองมีงานประจำ โดยหันมาขับแกร็บรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงาน เพราะต้องการหารายได้เสริมเพื่อนำเงินไปผ่อนรถ ซึ่งโดยปกติไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือโพสต์อะไรในกรุ๊ปคนขับ แต่วันนั้นรู้สึกประทับใจที่ได้รับของจากลูกค้าจึงอยากโพสต์ขอบคุณ ซึ่งไม่คิดเลยว่าโพสต์วันนั้นจะเป็นสะพานเชื่อมให้รู้จักกับแอน
“พอได้คุยกัน ผมรู้สึกประทับใจที่เขามีอะไรเหมือนเราหลายอย่าง แถมยังเป็นผู้หญิงเก่ง และสู้ชีวิต ขับรถตั้งแต่เช้ายันค่ำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว พูดตามตรงบางทีผมเองก็แอบเป็นห่วงเขาเหมือนกันเวลาที่ต้องออกมาขับรถเวลากลางคืน แต่พอเป็นแกร็บก็อุ่นใจ เพราะเป็นแอปที่มีระบบ และมาตรฐานด้านความปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือต่อสายตรงหาตำรวจ หรือแชร์ตำแหน่งให้รู้ได้ว่าอยู่ที่ไหน เรายังคอยโทร.หาเขาอยู่ตลอดก็ช่วยให้คลายกังวล”
“แอน” ทิ้งท้ายว่า “แม้ทั้งคู่จะทำงานเยอะ เพราะต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว แต่ก็ไม่ลืมหาเวลาให้กันตลอด ไม่ว่าจะโทร.คุยกัน ออกไปเที่ยวพักผ่อน หรือหาเวลามาเจอมากินข้าวด้วยกันช่วงเย็น ก่อนแยกย้ายไปขับแกร็บต่อ
ถือเป็นความสุขง่าย ๆ ที่ช่วยเติมเต็มความรัก แม้จะคบกันมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดเรียนรู้ซึ่งและกัน สิ่งสำคัญคือการปรับตัวเข้าหากัน และเป็นความสุขให้แก่กันและกันในทุก ๆ วัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
30 ปี…รักเรา ไม่เก่าเลย
อีกหนึ่งคู่รักครอบครัว “แกร็บ” คือคุณตาแดง พีรพล อังควานิช วัย 66 ปี อดีตหนุ่มแบงก์ที่ผันตัวมาขับแกร็บฟู้ดหลังเกษียณ ผู้ตกหลุมรักสาวใต้เมืองสงขลา คุณยายน้อง สุธิรา อังควานิช อย่างถอนตัวไม่ขึ้นจนถึงกับมีประโยคแทนใจว่า “เธอคือบุพเพสันนิวาสของผม”
“คุณตาแดง” เล่าให้ฟังว่า เดิมเป็นคนนครสวรรค์ แต่มีเหตุให้ต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่สงขลา และมีโอกาสได้ทำงานเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองหาดใหญ่ จนพรหมลิขิตได้นำพาให้ได้มาพบกับคุณยายน้องที่ทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์ให้โรงแรมที่อำเภอหาดใหญ่
“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบยาย ก็รู้สึกถูกชะตา รู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารัก เลยตามจีบมาตลอด ทุก ๆ วันหลังเลิกงาน ตาจะไปรับเขาไปกินข้าว แล้วไปส่งที่บ้าน แสดงให้ทางบ้านเห็นว่าเราจริงใจ สามารถดูแลลูกสาวเขาได้ คบเป็นแฟนได้ 6 ปี ทางบ้านก็อนุญาตให้แต่งงานกัน การตกหลุมรักใช้เวลาไม่นาน แต่การดูแลความรักให้ยืนยาวต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายามไปด้วยกัน ตารู้สึกโชคดีที่มียายน้องเป็นคู่ชีวิต เขาเป็นทั้งแม่ที่ดีของลูก ๆ และเป็นภรรยาที่คอยดูแลกันมาตลอด 30 กว่าปี”
คุณตาเล่าว่า หลังเกษียณจากงานที่ธนาคาร รู้สึกเคว้งอยู่นาน แม้ไม่ต้องส่งเสียลูก หรือมีภาระอะไรมากมาย แต่เหมือนชีวิตขาดอะไรไป เพราะมีเวลาเหลือเยอะมากในแต่ละวัน จนเพื่อนแนะนำให้มาลองขับแกร็บ
“เดิมตาชอบขับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว เลยลองมาขับดู ปรากฏว่าติดใจเลย รู้สึกชีวิตสนุกขึ้น เหมือนได้ออกมาทำภารกิจทุกวัน บางครั้งก็ได้ฝึกสมอง เวลาที่ลูกค้าปักหมุดไม่ตรง เราก็ต้องพยายามหาทางเอาอาหารไปส่งให้ถึงมือ ซึ่งช่วงแรก ๆ ตาขับคนเดียวก่อน แต่หลัง ๆ ยายทนเป็นห่วงไม่ไหว เลยขอออกมาด้วย คอยนั่งเป็นเพื่อนกัน เอาจริง ๆ ตาก็เป็นห่วง ไม่อยากให้เขาต้องมาลำบากตากแดด แต่ยายยังยืนยันที่จะออกมา เลยถือโอกาสนี้เหมือนได้ออกมาขับรถเที่ยวเล่นด้วยกัน เหมือนสมัยจีบกันแรก ๆ พอออกมาด้วยกันทุกวันแบบนี้ กลายเป็นว่าเราได้ใช้เวลาด้วยกันตลอดเวลา เป็นการเติมความรักให้กันวันละเล็กละน้อย”
คุณตาทิ้งท้ายบอกถึงเคล็ด (ไม่) ลับในการบริหารความรักให้เหมือนวันแรกว่า “สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการห่วงใย การดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันในทุก ๆ วันนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการใช้ชีวิตคู่ให้ยืนยาว”