กระแสสุขภาพกดดัน “แมคโดนัลด์” ปรับใหญ่ “แฮปปี้มีล”

คอลัมน์ Market Move

“แฮปปี้มีล” หรือชุดอาหารสำหรับเด็กที่มีความพิเศษทั้งด้านสามารถเลือกออปชั่นอาหาร-เครื่องดื่มและแถมของเล่นด้วยนั้น ถือเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของ “แมคโดนัลด์” ยักษ์ฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกัน ด้วยการเป็นแม็กเนตดึงดูดกลุ่มครอบครัวมาเป็นลูกค้าต่อเนื่องมาตลอดหลายปี จนครองส่วนแบ่งในเซ็กเมนต์นี้เหนือกว่าคู่แข่งอย่างเบอร์เกอร์คิงหรือเวนดี้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องโรคอ้วนและเบาหวานในเด็กของบรรดาผู้ปกครองที่เข้มข้นขึ้นตามเทรนด์สุขภาพ ทำให้ยักษ์ฟาสต์ฟู้ดต้องเร่งปรับตัว

โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาแมคโดนัลด์ได้ปรับออปชั่นของเมนูชุดแฮปปี้ไปหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นลดขนาดเฟรนช์ฟราย เพิ่มผลไม้ ตัดน้ำอัดลมออกจากเมนูและเปลี่ยนสูตรน้ำผลไม้เป็นแบบน้ำตาลต่ำ เป็นต้น

แต่ในปี 2561 นี้ แมคโดนัลด์เตรียมปรับเมนูแฮปปี้มีลครั้งใหญ่ โดยมีผลครอบคลุมร้านสาขาทั่วโลก เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและรักษาฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวเอาไว้

โดย สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า แมคโดนัลด์ได้ประกาศปรับปรุงตัวเลือกในชุดแฮปปี้มีลอีกครั้ง ทั้งในตลาดสหรัฐและทั่วโลก ตามมาตรฐานใหม่ที่จะให้มีพลังงานต่ำกว่า 600 แคลอรี และมีโซเดียมต่ำกว่า 650 มิลลิกรัมต่อชุด รวมถึงมีพลังงานจากไขมันอิ่มตัวและน้ำตาลต่ำกว่า 10% ของแคลอรีรวม

เพื่อให้เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ดาวเด่นอย่างชีสเบอร์เกอร์จะต้องถูกตัดออกไปจากเมนู เช่นเดียวกับนมรสช็อกโกแลต ส่วนอาหารอื่น ๆ จะถูกลดขนาดลง เช่น เฟรนช์ฟรายจะเป็นขนาดสำหรับเด็กซึ่งเล็กกว่าไซซ์เล็กปกติลงไปอีก ช่วยลดแคลอรีและโซเดียมลงครึ่งหนึ่ง พร้อมเพิ่มน้ำเปล่าเป็นรายการเสริมซึ่งต้องเสียเงินเพิ่ม

สำหรับชุดแฮปปี้มีลของสาขาในประเทศอื่น ๆ นั้น ในระยะแรกตัวเลือกอย่างน้อย 50% จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานใหม่ โดยจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เช่น ในอิตาลีจะมีแซนด์วิชไก่ย่างเพิ่มเข้าไป

ต้องรอดูกันว่าการตัดสินใจนี้จะส่งผลบวกหรือลบกับแมคโดนัลด์กันแน่ เพราะเมื่อปี 2557 การตัดน้ำอัดลมออกจากชุดแฮปปี้มีล ทำให้ยอดขายชุดอาหารเด็กนี้ลดลงถึง 14%

ขณะเดียวกันต้องรอลุ้นว่าในแต่ละประเทศจะมีอะไรเป็นเมนูใหม่ในชุดแฮปปี้มีลกันบ้าง