คาราบาวทุ่ม 1.4 หมื่นล้านบุกจีน ตั้งโรงงานต่างประเทศ ต่อยอดธุรกิจจัดจำหน่าย

“คาราบาว” ลั่นขอยึดเบอร์ 2 ชูกำลังอังกฤษใน 5 ปี ก่อนสยายปีกบุกฝรั่งเศส ออสเตรีย เยอรมนีเพิ่ม เล็งทุ่มงบฯ 1.4 หมื่นล้านบุกจีน ก่อนมีแผนตั้งโรงงานผลิตนอกประเทศเร็ว ๆ นี้ ด้านธุรกิจในไทย มองต่อยอดดิสทริบิวชั่น ปั้นรายได้หลักแทนชูกำลัง ส่วนปีนี้คาดยอดขาย 1.5 หมื่นล้าน โต 20%

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่คาราบาวได้เข้าไปทำตลาดในอังกฤษ เป็นเวลากว่า 1 ปี พบว่าสินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 9 ล้านกระป๋อง คิดเป็นเบอร์ 4-5 ของตลาด และมีคู่ค้าในกลุ่มโมเดิร์นเทรดเชนใหญ่เข้ามามากขึ้น ปัจจุบันมีจุดขายกว่า 1.5 หมื่นจุด ครอบคลุมค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Morrisons, ASDA, Ocado, Coop และเร็ว ๆ นี้จะเข้าไปจำหน่ายใน Sainbury เพิ่มเติม รวมถึงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับเทสโก้ ซึ่งเป็นค้าปลีกรายใหญ่ที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ทั้งนี้ คาดว่าสิ้นปีจะมีจุดขายครอบคลุม 2 หมื่นจุด

แผน 5 ปีเร่งมาร์เก็ตแชร์

สำหรับเป้าหมายในอังกฤษอีก 5 ปีจากนี้ ต้องการให้คาราบาวมีมาร์เก็ตแชร์เบอร์ 2 ของตลาด รองจากเรดบูล จากปัจจุบันที่มอนสเตอร์เป็นเบอร์ 2 และรีเรนท์เลสเป็นเบอร์ 3 ของตลาดเอ็นเนอร์จี้ดริงก์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 1.2 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท

โดยใช้กลยุทธ์สปอนเซอร์ชิปในกีฬาฟุตบอล เช่น ฟุตบอลลีกคัพ ที่ปัจจุบันคาราบาวเข้าไปสนับสนุนและเปลี่ยนชื่อเป็นคาราบาวคัพ เพื่อสร้างแบรนด์อะแวร์เนสให้กับผู้บริโภคและคู่ค้า การทำมาร์เก็ตติ้งเต็มรูปแบบทั้งทีวีซี สื่อ ณ จุดขาย สื่อออนไลน์ โปรโมชั่นชิงโชค ตลอดจนการพัฒนาสูตร-ออกสินค้าใหม่ เนื่องจากอังกฤษกำลังจะเก็บภาษีน้ำตาลจากเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งทุกรสชาติของคาราบาวที่วางขายขณะนี้ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องเสีย ถือเป็นจุดได้เปรียบเนื่องจากคู่แข่งทุกรายอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องปรับขึ้นราคา

ลุยจีนในนามส่วนตัว

นายเสถียรยังระบุต่อไปอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าในประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ฯลฯ เพื่อเข้าไปจำหน่ายสินค้า โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ ซึ่งในปีนี้บริษัทจะขยายตลาดยุโรปมากขึ้น เพราะมองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่เบื้องต้นจะเป็นการส่งสินค้าไปจำหน่ายหากในอนาคตตลาดมีการขยายตัวได้ดี จะพิจารณาตั้งโรงงานเพื่อเป็นฐานการผลิต รวมถึงจีน ซึ่งเป็นตลาดที่เพิ่งเข้าไปในปีที่ผ่านมา แต่มีศักยภาพเติบโตสูง

โดยมีขนาดตลาดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก หรือ 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.7 แสนล้านบาท รองจากสหรัฐอเมริกา สำหรับการลงทุนในจีน ปัจจุบันได้ลงทุนในนามส่วนตัว (กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และบริษัทท้องถิ่น DAI Group) โดยคาราบาวทำหน้าที่ผลิตให้ คาดว่าในระยะ 4 ปีจากนี้จะใช้งบฯลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างตลาดในจีน โดยจะเข้าไปทุกมณฑลพร้อมกัน

หลังจากปีที่ผ่านมาได้เข้าไปตั้งออฟฟิศแล้ว 26 แห่ง มียอดขาย 120 ล้านกระป๋อง และจะเพิ่มเป็น 300 ล้านกระป๋องในปีนี้ และด้วยการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด จึงมีแผนจ้างผลิต (OEM) ภายในปีนี้เอาไว้ด้วย ก่อนที่จะศึกษาตั้งโรงงานในอนาคต

ลูกชายลุยตลาด ตปท.

นายร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป้าหมายระยะ 3-5 ปีของบริษัท ต้องการผลักดันให้แบรนด์และสินค้าของคาราบาวเป็น “world class products, world class brand” โดยเข้าไปปักธงในหลาย ๆ ประเทศเพิ่มเติม จากปัจจุบัน 20 แห่ง โดยเครื่องดื่มชูกำลังจะมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ในประเทศต้องยอมรับว่าตลาดชูกำลังเติบโตได้ไม่มาก ด้วยฐานผู้บริโภคที่จำกัดกับกลุ่มใช้แรงงาน

ในอนาคตจึงมองว่ากลุ่มธุรกิจดิสทริบิวเตอร์ ภายใต้บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด ที่ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าของคาราบาวไปยังร้านค้าเน็ตเวิร์กกว่า 2 แสนรายทั่วประเทศ มีศักยภาพการเติบโตมหาศาล เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ ระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ รองรับการออกสินค้าใหม่ ๆ ของบริษัท เช่น กาแฟกระป๋อง และน้ำดื่ม ในปีที่ผ่านมา รวมถึงคู่ค้าที่บริษัทจะรับจัดจำหน่ายให้ ปัจจุบันมีกว่า 20 แบรนด์ ยังสามารถขยายได้อีก จากหน่วยรถแคชแวนกว่า 300 คัน และศูนย์กระจายสินค้า 31 แห่งทั่วประเทศ


อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ตั้งเป้าหมายว่า ธุรกิจในประเทศก็จะผลักดันให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10% และต่างประเทศจะเติบโต 30% คิดเป็นยอดขายรวม 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมามียอดขาย 1.2 หมื่นล้านบาท