CPN กางแผน 5 ปี 9.3 หมื่นล้าน เพิ่มศูนย์-ยึดศรีราชารับ EEC

เซ็นทรัลเปิดแผน 5 ปี หว่านเม็ดเงิน 9.3 หมื่นล้าน ผุดศูนย์การค้าใหม่ปีละ 2-3 แห่ง ส่งโปรเจ็กต์คอนโดฯ/มิกซ์ยูสต่อยอดทำเลห้าง ก่อนเตรียมเปิดเซ็นทรัลภูเก็ต มาเลเซีย อุบไต๋เล็งเปิดสาขาใหม่เพิ่มในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เผยมีที่ดินอีก 3-4 แปลงรอการพัฒนา รับสนใจลงทุนใน EEC ชี้มีที่ดินศรีราชา อยู่ระหว่างการศึกษา คาดสิ้นปีโต 20% จากปีที่ผ่านมาปิดยอด 3 หมื่นล้าน

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า (2561-2565) บริษัทตั้งงบฯการลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจ 93,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดศูนย์การค้าใหม่ปีละ 2-3 แห่ง การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม อาคารมิกซ์ยูส อีกปีละ 3-5 โปรเจ็กต์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในพื้นที่เดิมให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้น

สำหรับปีนี้ ซีพีเอ็นจะมีศูนย์การค้าใหม่เปิด 3 ศูนย์ ได้แก่ เซ็นทรัลภูเก็ต ภายในครึ่งปีแรก เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย ภายในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของซีพีเอ็นที่เปิดในต่างประเทศ ตั้งอยู่ในเมืองชาห์อาลัม รัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท ไอ-เบอร์ฮาด และตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีทั้งโรงแรม ออฟฟิศ ที่พักอาศัย และมีการแข่งขันน้อยกว่าในกัวลาลัมเปอร์ และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ามาถึง ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น และอีก 1 ศูนย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไซซ์ปานกลางไม่ใหญ่มากนัก เป็นคอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์ สวยงาม โดยบริเวณดังกล่าวเริ่มมีการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนที่ราชพฤกษ์ คาดว่าจะเปิดภายในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ซีพีเอ็นยังมีที่ดินในกรุงเทพฯที่รอการพัฒนาอีก 3-4 แปลง

อีกทั้งยังมีโครงการที่อยู่อาศัยเตรียมจะเปิดตัวอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพหลโยธิน 34 คอนโดมิเนียมใกล้กับพื้นที่ของเซ็นทรัลลาดพร้าว และโครงการบรมราชชนนี ซึ่งเป็นบ้านหลัง อยู่ใกล้กับพื้นที่ของเซ็นทรัลปิ่นเกล้า และศาลายา

ซึ่งการทำที่พักอาศัยนั้นจะเน้นทำเลที่ใกล้กับศูนย์ที่เปิด เพื่อกระจายความหลากหลายในการลงทุนของสินทรัพย์ที่มี ปัจจุบันได้เปิดตัวไปแล้ว 6 โครงการ เช่น ESCENT เชียงใหม่, ESCENT ขอนแก่น, ESCENT ระยอง เป็นต้น

ส่วนศูนย์การค้าเดิมบริษัทมีแผนจะรีโนเวตเฉลี่ยปีละ 2-3 แห่ง โดยปี 2561 เตรียมรีโนเวตที่เซ็นทรัลพลาซาเชียงใหม่ เซ็นทรัลพลาซาชลบุรี เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต และเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว ภายใต้คอนเซ็ปต์

“เดสติเนชั่น” ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละย่าน ตลอดจนการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มอีก 6 ศูนย์ เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน จากปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 2 ศูนย์ คือ เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลพลาซาอุบลราชธานี โดยเป้าหมายภายใน 5 ปี ซีพีเอ็นจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 13% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 30,875 ล้านบาท เติบโต 6% มีกำไร 9,893 ล้านบาท

“ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ตลอดจนการบริโภคของภาคเอกชนก็มีการขยายตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งบริษัทเองก็มีการเติบโตของรายได้จากทั้งศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ ศูนย์การค้าเดิม มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน ซึ่งปีนี้จะติดเพิ่มอีก 6 ศูนย์ จากปีที่ผ่านมาติดตั้งไปแล้ว 2 ศูนย์ดังกล่าว”

ปัจจุบัน ซีพีเอ็นมีศูนย์การค้าที่อยู่ภายใต้การดูแลทั้งหมด 32 สาขา เป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 14 โครงการ และต่างจังหวัด 18 โครงการ โดยโครงการล่าสุดที่เปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซามหาชัย คิดเป็นพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมด 1.7 ล้านตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 92%

นางสาวนภารัตน์ยังระบุอีกว่า จากโครงการรถไฟความเร็วสูงที่รัฐบาลมีแผนลงทุนเพื่อเชื่อมโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC นั้น บริษัทเองก็มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีที่ดินในอำเภอศรีราชา ที่ได้รับสิทธิ์การเช่าช่วงจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือพื้นที่ค้าปลีกบริเวณโดยรอบสถานีก็อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะเข้าไปลงทุนแบบใด