ถอดรหัส “ออเจ้า” สินค้าโหนกระแส…ความฟินท่วมจอ

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

แม้ออนแอร์ไปเพียงไม่กี่ตอน แต่ละครพีเรียดย้อนยุคอย่าง “บุพเพสันนิวาส” ที่ได้นักแสดงฝีมือดี “เบลล่า ราณี” และ “โป๊ป ธนวรรธน์” มารับบท “แม่หญิงการะเกด” และ “หมื่นสุนทรเทวา” ก็ทำเอาหลายคนถึงกับฟินจิกหมอน กับความน่ารัก มุ้งมิ้ง ของคู่พระนาง และสีสันของการประยุกต์บทละคร ให้มีการดำเนินเรื่องใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของคนดู ผสมกับความแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าของนางเอก กับสำบัดสำนวนการพูดของคนในสมัยก่อน รวมถึงสรรพนามการเรียกขานสุดน่ารักอย่าง “ออเจ้า” กับ “คุณพี่” ก็ส่งให้ละครไทยกลับมามีกระแสสะพัดทั่วพระนคร

และไม่เพียงความฟินที่เกิดจากคู่พระนาง แต่การนำเอาเมนูอาหารจากยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น “หมูกระทะ” “กุ้งเผา” และ “มะม่วงน้ำปลาหวาน” ข้ามภพไปเสิร์ฟถึงเรือนไทยสมัยอยุธยาของแม่หญิงการะเกด ก็กลายจุดกระแสฮอตบนโลกโซเชียลแบบถล่มทลาย จนทำให้บรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ปิ๊งไอเดีย หยิบยกเรื่องราวเหล่านี้ไปทำคอนเทนต์ ต่อยอดกระแส ออเจ้า เรียกแขกให้เข้ามาคลิกในเพจตัวเองได้อีก

เริ่มตั้งแต่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “บาบีคิว พลาซ่า” ที่ยิงคอนเทนต์ขึ้นเฟสบุ๊กทันทีหลังละครจบ ว่า “มีที่ไหนรับส่งของข้ามมิติมั้ยครับ อยากจะส่งกระทะไปให้ออเจ้าการะเกด” ในชั่วข้ามคืนก็มีการแชร์โพสต์นี้กว่าพันครั้ง และถึงตอนนี้มีคนกดไลก์กว่า 3 หมื่นคน

และวันต่อมา “บาร์บีคิวพลาซ่า” ก็ไม่มีรอ ส่งโปรโมชั่นตามมาติด ๆ ด้วยการลิงก์กับเนื้อหาของละคร โดยชวนให้ใส่ชุดไทย เพื่อรับส่วนลดในชุดสุขนัว 50% จาก 599 บาท เหลือ 299 บาท เป็นตัวอย่างของการเชื่อมกระแสออนไลน์ สู่ร้านค้าที่ออฟไลน์ได้เป็นอย่างดี

ตามด้วยเพจ “ท็อปส์ ไทยแลนด์” หรือ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในเครือเซ็นทรัล ก็ยิงคอนเทนต์ขายของรัว ๆ ทั้งน้ำจิ้มหมูกระทะ น้ำจิ้มซีฟู้ด มะม่วงน้ำปลาหวาน รวมถึงโปรโมชั่นในคอนเซ็ปต์ “ออเจ้าจะซื้อของเข้าเรือน” รวบรวมสินค้าที่ลิงก์กับเนื้อหาในละคร เช่น ลิปสติกสีแม่การะเกด ยาสีฟันสมุนไพร กระดาษชำระสำหรับไปเวจ (ห้องน้ำ) เป็นต้น หรือเฟซบุ๊ก “7-Eleven Thailand” ก็โหนกระแสนี้ทันทีที่ละครออนแอร์ถึงเมนูมะม่วงน้ำปลาหวาน ด้วยการโพสต์ชวนให้มาลองมะม่วงน้ำปลาหวานแบรนด์ 7selected โดยไม่ละทิ้งคอนเซ็ปต์ร้านสะดวกซื้อว่า “ไม่กงไม่กลับแล้วบ้าน กลับไม่ทัน ออเจ้าแวะดูกันที่เซเว่นฯเลยละกัน เห็นบอกจะทำมะม่วงน้ำปลาหวาน แอดนี่เปรี้ยวปากรีบจัดก่อนเลยจ้า”

แม้กระทั่งเพจ “ไทยวัสดุ” ศูนย์รวมสินค้าก่อสร้าง ไปจนถึงสุขภัณฑ์ ครัว ของตกแต่งบ้าน ก็ไม่พลาดที่จะนำ “เตาย่างบาร์บีคิว” ออกมาเรียกยอดไลก์จากสาวกออเจ้าที่อยากกินหมูกระทะ จนสร้างยอดแชร์ไปกว่า 1.6 พันครั้ง

ปรากฏการณ์แชร์เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับออเจ้า แม่การะเกด คุณพี่ หมื่นสุนทรเทวา ฯลฯ ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโซเชียล แต่ยังเขย่าเรตติ้งของช่อง 3 ทั่วประเทศให้พุ่งทะยานถึง 12.6 หลังจากฉายตอนที่ 6 วันพฤหัสฯที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเรตติ้งในกรุงเทพฯยังพุ่งไปที่ 19 และยังทำให้แฮชแท็กของ #บุพเพสันนิวาส ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก ด้วยยอดทวีตทะลุ 1 ล้านครั้งไปเรียบร้อย

“สุนาถ ธนสารอักษร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิทส์ เทลล์ จำกัด ดิจิทัลเอเยนซี่ ให้มุมมองกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระแสละครบุพเพสันนิวาสกำลังได้รับความนิยมอย่างมากแม้ออกอากาศได้ไม่กี่สัปดาห์ ส่งผลให้หลายแบรนด์ออกมาโหนกระแสนี้ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องแบบเต็มโซเซียล หรือเรียกว่า เรียลไทม์คอนเทนต์ (real-time content)

อย่างไรก็ตาม การทำเรียลไทม์คอนเทนต์ สิ่งที่แบรนด์ต้องมี คือ ต้องเร็วและมีจังหวะที่ดี ซึ่งทุกแบรนด์สามารถเล่นกับกระแสนี้ได้ แม้จะเป็นแบรนด์ที่มีหรือไม่มีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่ถูกพูดถึงในละครก็ตาม เพราะท้ายที่สุดอยู่ที่การสร้างคอนเทนต์ ถ้าสร้างคอนเทนต์ดี ก็จะทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ แต่ถ้ามีการต่อยอดหรือสร้างแคมเปญต่อเนื่อง ก็จะทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ พร้อม ๆ กับสร้างแบรนด์เลิฟในใจผู้บริโภคด้วย

“สุนาถ” อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อละครพูดถึงหมูกระทะ ถ้าแบรนด์ที่ไม่ได้ขายของเกี่ยวกับสินค้านี้ ก็อาจจะทำคอนเทนต์ออกมาได้แค่กระแส สร้างความฮือฮา เพื่อให้ถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย แต่กรณีที่แบรนด์นั้นขายสินค้าเกี่ยวข้องกับหมูกระทะ ก็อาจจะทำคอนเทนต์ล้อไปกับละครทันที ยกตัวอย่าง บาร์บีคิวพลาซ่า ถือว่าเล่นกับกระแสที่เกิดขึ้นได้ดี เพราะไม่เพียงหยิบกระแสหมูกระทะมาทำเรียลไทม์

คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย และถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังปล่อยแคมเปญสั้น ๆ ออกมาด้วย โดยชวนให้ลูกค้าแต่งชุดไทยมาทานอาหารที่ร้านรับส่วนลดชุดสุขนัว 50% เพียง 3 วัน (วันที่ 9-11 มี.ค.) เพื่อดึงให้เข้ามาใช้บริการ นั่นหมายถึงการวัดผลในแง่ของยอดขายได้ด้วย

“เรียลไทม์คอนเทนต์เป็นการเล่นกับกระแสที่เกิดขึ้น ซึ่งแบรนด์ต้องเร็ว ต้องรู้จังหวะ และต้องรู้ว่าแค่ไหนควรหยุด เพราะถ้าเล่นกับกระแสมากเกินไป หรือช้าเกินไปผู้บริโภคก็อาจจะไม่สนใจ นอกจากนี้แบรนด์ยังต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีด้วยเพื่อสร้างคอนเทนต์ล่วงหน้า เช่น ต้องอ่านบทละครล่วงหน้าและสร้างคอนเทนต์ให้พร้อม เมื่อละครออนแอร์ก็พร้อมยิงคอนเทนต์ทันที เพื่อช่วงชิงจังหวะก่อนคู่แข่ง เพราะถ้าช้าแบรนด์อื่น ๆ ทำก่อน ผู้บริโภคก็อาจจะไม่ตื่นเต้นและไม่สนใจเช่นกัน”

นอกจากนี้ กระแสละครดังกล่าวยังแรงข้ามอโยธยา เพราะเฟซบุ๊ก “อ้ายจง” เพจของคนไทยที่รวบรวมเรื่องราวจากประเทศจีนชื่อดังยังโพสต์ข้อความว่า ในโซเชียลมีเดียของจีนก็มีการพูดถึงละครไทยเรื่องบุพเพสันนิวาสกันอย่างแพร่หลาย จนแฮชแท็ก “บุพเพสันนิวาส” (เป็นภาษาจีน) ติดอันดับ 14 ในเวยป๋อ (Weibo) โซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมของคนจีน ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคนต่อเดือน รวมถึงยังมีการนำละครเรื่องดังกล่าวไลฟ์สดและแปลซับไตเติลให้คนจีนได้ชมกันด้วย


เรียกว่ากระแส “ออเจ้า” มาแรงสุด ๆ ในช่วงนี้คงไม่ผิดนัก ส่วนแบรนด์ไหนจะโหนกระแสสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจผู้บริโภคได้ก็ขึ้นอยู่ที่ความเร็ว และกลยุทธ์ที่แบรนด์วางไว้ ว่าจะต่อยอดสร้างโอกาสจากกระแสที่เกิดขึ้นได้อย่างไร