“เทสโก้” สะท้อนกำลังซื้อ ดัชนีค่าครองชีพ ติดหล่มราคา

กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญลดค่าครองชีพ “โรลแบ็ค” ของยักษ์ค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ต “เทสโก้ โลตัส” เพื่อปลุกกำลังซื้อและดันให้ตลาดเดินหน้าไปได้ต่อ

การลดราคารอบนี้ ไม่เพียงทุ่มงบฯ 520 ล้านบาท ในช่วงเวลา 3 เดือนจากนี้เพื่อมาเป็นส่วนต่างในการซัพพอร์ตราคาสินค้ากว่า 1,000 รายการ แต่ยังเป็นปีแรกที่จัดพร้อมกันกว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ จากเดิมที่จะเน้นเฉพาะในสาขาไซซ์ใหญ่-ไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็นหลัก

การรุกเต็มรูปแบบด้วยการ “ดัมพ์ราคา” สินค้ากลุ่มค่าครองชีพในครั้งนี้สะท้อนได้จากผลการสำรวจของ “เทสโก้” ที่เก็บข้อมูลทางการตลาดและพบว่าฐานลูกค้าส่วนใหญ่มีความกังวลมากที่สุดใน 3 ปัจจัย คือ เรื่องของราคาสินค้า เป็นตัวเลขความกังวลอันดับ 1 สูงกว่า 58% ตามมาด้วยความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัว 51% และเรื่องของภาระหนี้สิน 47%

“มาร์ค รัฟลีย์” ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส ฉายภาพว่า ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่ค่อยดีนักจากสารพัดปัจจัยลบที่เข้ามากระทบต่อเนื่อง สอดคล้องกับตัวเลขการสำรวจความเห็นของลูกค้าของเทสโก้ในช่วงต้นปี พบว่าลูกค้าจำนวนมากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าและค่าครองชีพ

โดยการสำรวจล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น ปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับลูกค้าสูงสุด 3 ปัจจัยคือ ราคาสินค้า (58%) ค่าใช้จ่ายของครอบครัว (51%) และหนี้สิน (47%) ทำให้เทสโก้ต้องปล่อยแคมเปญ “โรลแบ็ค” ออกมากระตุ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ราคาโรลแบ็คจะเป็นราคาเดียวกันในสาขาทุกรูปแบบ

ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต ตลาด และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส กว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ทั้ง 2 ช่องทาง

“เราเตรียมงบประมาณในการลงทุนกว่า 520 ล้านบาท เพื่อหนุนราคาสินค้าให้ถูกลงตลอดระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ เน้นกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร ทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง ที่คิดว่าจำเป็นในชีวิตประจำวันของลูกค้า และการขยายแคมเปญไปในทุกสาขาทุกฟอร์แมตของเทสโก้ เพราะต้องการให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป กว่า 40% เป็นลูกค้าจะซื้อของผ่านหลายช่องทาง (cross-format shoppers) เราต้องการบอกว่า มาที่เราสามารถซื้อสินค้าราคาประหยัดได้ในทุกสาขา”

ปัจจุบัน “เทสโก้” มีฐานลูกค้าที่เข้าจับจ่ายประมาณ 15 ล้านคนต่อสัปดาห์ในทุกช่องทาง อาทิ สาขาใหญ่ 376 สาขา (เอ็กซ์ตร้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, ตลาด) เอ็กซ์เพรส 1,574 สาขา รวมทั้งเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ และสินค้าเทสโก้ โลตัส บนแพลตฟอร์มลาซาด้า ซึ่งแคมเปญโรลแบ็คจะครอบคลุมทุกช่องทางเช่นเดียวกับการประกาศเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดให้บริการของเทสโก้ 575 สาขา จากจำนวนสาขาทั้งหมดประมาณ 1,900 สาขาทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

ผู้บริหาร “เทสโก้” ขยายความว่า เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ปรับเวลาการเปิด-ปิดให้บริการนั้นจะเป็นสาขาในต่างจังหวัดและนอกเมือง ซึ่งพฤติกรรมการช็อปปิ้งและออกมาจับจ่ายซื้อของจะมาช่วงกลางวัน โดยจะดูตามพื้นที่และลูกค้าเป็นหลัก

เมื่อพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน คิดเยอะขึ้น เลือกเยอะขึ้น มีทางเลือกจากคู่แข่งที่มากขึ้น…เทสโก้จึงไม่หยุดนิ่งและตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาด