สึนามิ “ติ๋ม”

คอลัมน์ Marketthink

โดย สรกล อดุลยานนท์

หลังจากที่ศาลปกครองกลาง พิพากษาให้ “พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย” หรือ “ติ๋ม ทีวีพูล” ชนะคดี

ไม่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาตประมาณ 1,500 ล้านบาท ให้กับ กสทช.

สมรภูมิทีวีดิจิทัลก็เปลี่ยนไปทันที

ช่วงที่ผ่านมาหลังการประมูลทีวีดิจิทัล แทบทุกช่องต่างเจอมรสุมหนัก

สถานการณ์ไม่ได้งดงามดั่งที่คิดไว้ในตอนที่ยื่นซองประมูล

แทบทุกช่อง “เลือดไหล” ไม่หยุด

แบกขาดทุนกันมโหฬาร

ส่วนใหญ่จะเลือกวิธีการขายหุ้นให้กับ “นักลงทุนรายใหญ่”

ไม่ว่าจะเป็น อมรินทร์ทีวี จีเอ็มเอ็ม25 ช่องวัน

มีเพียงคนเดียว คือ “ติ๋ม ทีวีพูล” ที่เลือกแนวทางใหม่

“ไม่ทำ-ไม่หนี-ไม่มี-ไม่จ่าย”

ปิดช่อง “จอดำ” ไปเลย

แล้วฟ้อง กสทช. ในข้อหาทำผิดสัญญาทั้งเรื่องการแจกกล่องดิจิทัล และโครงข่ายสัญญาณ

สุดท้าย ศาลปกครองก็ตัดสินให้ “ติ๋ม” ชนะ

แม้จะเหลือศาลปกครองสูงสุดอีกขั้นหนึ่งก็ตาม

แต่สัญญาณจากศาลปกครองกลาง ก็ทำให้ “ติ๋ม” ยิ้มได้

และเปิดช่องทางใหม่ให้กับทีวีดิจิทัลหลายช่อง

เพราะหลายช่องก็รับสถานการณ์เลือดไหลไม่หยุดไม่ไหว

อยากเลิกเต็มที

แต่ด้วยสัญญาสัมปทาน ทำให้ “ตายไม่ได้”

คำพิพากษาศาลปกครองกลางครั้งนี้ จึงเท่ากับทำให้นักลงทุนหลายรายเริ่มคิดที่จะ “ตัดขาดทุน”

ยอมเจ็บแค่นี้ก็พอแล้ว

ไม่ดื้อต่อไป

ในขณะเดียวกันยังมีอีกช่องทาง

หนึ่งที่เป็น “ทางรอด” ของวงการทีวีดิจิทัล

นั่นคือ แนวทางการใช้มาตรา 44 พักชำระใบอนุญาต 3 ปี และลดค่าโครงข่ายลง 50% 2 ปี

แนวทางนี้หมายความว่า ช่องต่าง ๆ จะลดภาระ “เงินสด” ที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานใน 3 ปี

แต่แค่ยืดเวลาออกไป

ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องจ่าย

ค่าดำเนินการทำช่อง ก็ยังต้องจ่ายต่อไป

แนวทางนี้จึงเหมาะกับ “นักลงทุน” ที่ยังมีความหวังกับทีวีดิจิทัล

คิดว่าอนาคตยังมี

เพียงแต่ลดภาระการเงินในช่วงนี้ลงได้บ้าง

แต่ถ้าช่องใดคิดว่าไม่ไหวแล้ว

ไม่ไปต่อดีกว่า

เขาคงเลือกแนวทางของ “ติ๋ม”

“จอดำ” ไปเลย

ถ้ามีช่องที่เลือกทางนี้เยอะ

ปิดตัวไปสัก 10 ช่อง

สถานการณ์ของธุรกิจทีวีดิจิทัลจะเปลี่ยนไปทันที

ด้านหนึ่ง คือ ช่องที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะช่องหลักอาจมีรายได้จากโฆษณามากขึ้น

เพราะเรตติ้งคนดูโทรทัศน์จากช่องเล็ก ๆ จะเพิ่มให้กับช่องที่เหลืออยู่อาจมีผลต่อรายได้จากโฆษณาบ้าง

นี่คือ การมองโลกในแง่ดี

แต่ถ้ามองโลกในแง่ร้าย เรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ การตกงานครั้งใหญ่ของวงการสื่อโทรทัศน์

หลังจากมีการปลดคนเป็นระลอกตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

แต่นั่นเป็นเพียงการประคองสถานการณ์

เพราะยังต้องทำช่องต่อไป

แต่ถ้าหลายช่องเลือกแนวทางแบบ “ติ๋ม ทีวีพูล”

คือ ปิดช่อง จอดำเลย

“สึนามิ” ถล่มแน่

ในฐานะคนในแวดวงเดียวกันได้แต่ภาวนาว่า ให้เจ้าของทุนทั้งหลายเลือกหนทางของ กสทช.

คือ สู้ต่อไป

ยอมรับการพักชำระใบอนุญาต 3 ปี

แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นภาพเงาที่รางเลือนเหลือเกิน