เปิดศึกตู้หยอดเหรียญเติมเงิน “เติมสบาย” ส่งโปรแรงชิงซิงเกอร์-บุญเติม

“เติมสบาย” โหมตลาดตู้เติมเงิน-หยอดเหรียญ เดินหน้าจับพันธมิตรอัดโปรโมชั่นราคาทั้งสินค้า-ค่าธรรมเนียมตอบโจทย์ตั้งแต่วัยรุ่น แรงงานต่างด้าวจนถึงสูงวัย พร้อมชูบริการหลังการขายสร้างเชื่อมั่นหวังชิงพื้นที่โชห่วย โรงงาน สถานศึกษา ผุดเติมเงินอีก 4 หมื่นตู้ ตามด้วยเครื่องดื่ม รั้งตำแหน่งเบอร์ 2 ตู้เติมเงิน และไต่ขึ้นท็อป 3 ตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญ

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เติมสบายพลัส ผู้ให้บริการตู้เติมเงินเติมสบาย และตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญเวนดิ้งพลัส กล่าวว่า ตลาดตู้เติมเงินมีโอกาสเติบโตสูงและเป็นตลาดทีมีศักยภาพ จากหลายปัจจัย บวกที่เข้ามาหนุนให้ตลาดขยายตัว ทั้งจำนวนผู้ที่ใช้โทรศัพท์ในระบบเติมเงินกว่า 1.2 แสนเลขหมาย ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร รวมถึงการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแรงงานต่างด้าวและผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกสบายและการใช่งานที่ง่าย รวมไปถึงนโยบายการลดจำนวนสาขาและตู้เอทีเอ็มของสถาบันการเงินและธนาคาร

อย่างไรก็ตาม เทรนด์การเติบโตที่ขยายตัวสูงนี้ ทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงเช่นเดียวกันซึ่งในภาพรวมของตลาดกลุ่มผู้นำยังเป็นค่ายตู้หยอดเหรียญบุญเติมที่ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 1.3 แสนตู้ รองลงมาเป็นตู้ของเติมสบาย มีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 4.4 หมื่นตู้ และตามมาด้วยค่ายซิงเกอร์เป็นอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 4 หมื่นตู้

ทั้งนี้ บริษัทเน้นจุดขายด้านการแข่งขันด้านราคาที่เหมาะสม ค่าบริการ ความรวดเร็วและฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายและสะดวกสบาย อาทิ สามารถชำระบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ และบิลจ่ายโทรศัพท์ เป็นต้น

นอกจากนี้ เพื่อรับมือการแข่งขันของตลาดและเร่งขยายส่วนแบ่งมาร์เก็ตแชร์ ทิศทางของบริษัทในปีนี้จะชูจุดขายด้านโปรโมชั่นราคาด้วยการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายค่ายและฟังก์ชั่น

การทำงานที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมบริการหลังการขาย รวมถึงโปรโมชั่นสำหรับผู้ซื้อตู้ โดยจับมือกับทรูจัดโปรโมชั่นเติมขั้นต่ำที่ 5 บาท และเติมค่าโทร. 100 บาท แถมไวไฟ 1 เดือนยาวถึงสิ้นปี ส่วนลดค่าธรรมเนียมการไฟฟ้า 2 บาท พร้อมแคมเปญลุ้นทองคำและรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงอัพเกรดระบบให้ทำงานรวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและแรงงานต่างด้าว รวมถึงผู้ใช้ทั่วไป

ด้านการขายตู้จะชูเรื่องรายได้ 10% จากการเติมเงิน และดาวน์ 4,900 บาท ผ่อนยาวสุด 60 งวด หรือซื้อเงินสด 42,693 บาท และบริการหลังการขาย อาทิ ประกัน 7 ปี เพื่อจูงใจผู้ประกอบการร้านโชห่วย โรงงาน โรงเรียน ที่พักอาศัยซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก เช่นเดียวกับธุรกิจตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญที่จับมือกับแบรนด์สินค้า เช่น ดาวคอฟฟี่ บิ๊กโคล่า โกปีโก้ รวมถึงผลิตน้ำดื่มแบบโออีเอ็มเพื่อนำสินค้ามาขายในตู้ในราคาต่ำกว่าคู่แข่ง

พร้อมกลยุทธ์ปรับสินค้าในตู้ตามดีมานด์ในแต่ละพื้นที่และคอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างยอดขายและความมั่นใจ จูงใจเจ้าของสถานที่ให้เลือกตู้ของบริษัทไปติดตั้ง เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินจาก 4.4 หมื่นตู้ เป็น 8 หมื่นตู้ และตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญจาก 450 ตู้ เป็น 1,300 ตู้ เบียดขึ้นท็อป 3 ของตลาด ร่วมกับซัน 108 เบอร์ 1 ที่มีประมาณ 9 พันตู้ และทีจีกับยูนีฟซึ่งมี 1.5 พันตู้ และ 1.3 พันตู้ตามลำดับได้ภายในปีนี้แน่นอน