การตลาด

“ไทยเบฟ” เดินเกมแอลกอฮอล์ ดึงเน็ตไอดอลสร้างแบรนด์ไทอินข้ามประเทศ

“ไทยเบฟ” ดัน “รวงข้าวซิลเวอร์” ขยายฐานเหล้าขาวต่างประเทศ-ปลุกอะแวร์เนสคนไทยในโซเชียล หลังรุกผนึกไอดอลเกาหลีสายกิน “ซูบิน” ขวัญใจชาวเน็ต ไทอิน ขณะไลฟ์สดกินหมูกระทะ พร้อมเดินหน้าแตกไลน์สินค้ารับหน้าขายไม่หยุด ทั้งเบียร์ใหม่ “Tapper” อาร์ทีดี “KULOV MAX7” เน้นแอลกอฮอล์แรง เอาใจสายแข็ง

 

กระชั้นเข้ามาทุกที กับวิชั่น 2020 หรือยุทธศาสตร์ของไทยเบฟ ต้องการครองความเป็น 1 ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทยและเอเชีย ภายในปี 2563 ที่จะถึง ภาพของการแตกไลน์สินค้าใหม่เพื่อขยายตลาด เพิ่มยอดขาย และผู้บริโภค ตลอดจนการเดินหน้าเทกโอเวอร์กิจการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเสริมทัพจึงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อรับกับหน้าขายที่จะถึง ไทยเบฟก็ไม่พลาดเดินเครื่องทำตลาดสินค้าใหม่ถึง 2 รายการด้วยกัน ทั้งเบียร์ และอาร์ดีที ดีกรีหนัก แถมยังโกอินเตอร์ส่งเหล้าขาวไปสร้างการรับรู้ถึงเกาหลี สร้างโมเมนตัมส่งต่อไปในช่วงสงกรานต์ที่จะถึง

“ซูบิน” คนตาม 3.2 ล้าน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ “Yang Soobin” หรือไอดอลสายกินชาวเกาหลี ที่มีแฟนคลับทั้งคนเกาหลีและคนไทยติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก (มียอดคนที่กดติดตามประมาณ 3.2 ล้านคน) ได้ทำการไลฟ์สดผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยการกินหมูกระทะแบบไทย พร้อมกับดื่มเหล้าขาว รวงข้าวซิลเวอร์ ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่นำมาตั้งไว้บนโต๊ะ และยังมีการนำกล่องของเหล้ายี่ห้อดังกล่าว กับป้ายสแตนดี้มาวางไว้เป็นฉากหลัง เพื่อสื่อสารถึงตัวสินค้าอีกต่อหนึ่งด้วย ซึ่งไลฟ์ดังกล่าวมีผู้เข้าชมประมาณ 4.3 ล้านวิว และมีชาวเน็ตคนไทยเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ รูปแบบการกินดื่มดังกล่าวเป็นที่นิยมในหมู่คนเกาหลี หรือเรียกว่า “โพจังมาจา” ร้านกินดื่มในเต็นท์ที่อยู่ข้างทาง โดยมีการทำให้ใกล้เคียงกับเมนูอาหารประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ซัมกยอบซัล” หรือหมูย่างเกาหลี โดยจะรับประทานคู่กับโซจู หรือเหล้าที่กลั่นจากข้าว มีสีใส คล้ายกับเหล้าขาวของไทย

“รวงข้าว” บุกพรีเมี่ยม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องไปกับยุทธศาสตร์ที่นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไทยเบฟได้แตกไลน์เหล้าขาวรวงข้าวซิลเวอร์ ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่พรีเมี่ยมกว่ารวงข้าวปกติ จากขวดสีชาเป็นขวดสีใส ตลอดจนฉลากและแพ็กเกจจิ้งโดยรวม เจาะคนละตลาดกับรวงข้าวเดิม ซึ่งเน้นร้านโชห่วย และเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เพื่อขยายตลาดในไทย และต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอาเซียน และเอเชียเหนือ ซึ่งนอกจากเกาหลีแล้ว ในปี 2561 มีแผนจะนำรวงข้าวซิลเวอร์ไปจำหน่ายในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ เมียนมา จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เป็นต้น

เลี่ยงบาลี “ทำได้”

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า การใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กในการสร้างการรับรู้ของไทยเบฟในครั้งนี้ ไม่เข้าข่ายความผิดในมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2511 เนื่องจากการไลฟ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่ต่างประเทศ อีกทั้งเน็ตไอดอลคนดังกล่าวก็เป็นคนเกาหลี ซึ่งตามหลักการของกฎหมายนั้น ย่อมใช้บังคับเฉพาะในราชอาณาจักรเท่านั้น

“อย่างไรก็ตาม การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่องทางดิจิทัลยังคงเป็นช่องทางสีเทา เพราะหากจะมองว่าแบรนด์ไทยทำแล้วผิดกฎหมาย แล้วห้ามไม่ให้มีการสร้างแบรนด์ หรือโฆษณาในช่องทางนี้ ก็จะเป็นกีดกันทางการค้ารูปแบบหนึ่ง และไม่แฟร์กับผู้ประกอบการไทย เพราะปัจจุบันการสื่อสารที่ไร้พรมแดนก็เปิดช่องให้แบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาใช้ช่องทางนี้สร้างการรับรู้กับคนไทยได้เช่นกัน”

ระดมสินค้าใหม่รอบทิศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไทยเบฟยังเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีก 2 รายการ ได้แก่ เบียร์ “แท็ปเปอร์ ออริจินอล เอ็กซ-ตร้า” แอลกอฮอล์ 6.5% เสริมทัพกลุ่มเบียร์ ที่มีแบรนด์ อาทิ ช้างคลาสสิค อาชา และเฟรเดอร์บรอย เน้นจับกลุ่มที่ต้องการเครื่อมดื่มแอลกอฮอล์ดีกรีสูง วางขายแล้วในช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ราคากระป๋องละ 53 บาท และเครื่องดื่มอาร์ทีดี (ready to drink) แบรนด์ “KULOV MAX7” ปริมาณแอลกอฮอล์ 7% เริ่มวางขายต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในช่องทางเซเว่นอีเลฟเว่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ราคากระป๋องละ 33 บาท และปูพรมเข้าไปในออนพริมิส เช่น ร้านเหล้า ผับ บาร์ อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากวางขายไม่นาน ได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ในงานเลี้ยงฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ผ่านมา

และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์งานปาร์ตี้ที่ผับย่านมหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมกับโรดโชว์แนะนำสินค้าไปในช่องทางร้านเหล้า ผับ บาร์ อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของไทยเบฟยังพบว่า “KULOV” เป็นวอดก้า จากโรงกลั่นในสกอตแลนด์ เป็นแบรนด์ 1 ใน 3 ของพอร์ตโฟลิโอกลุ่ม White Spirit ที่วางขายในต่างประเทศ โดยยังมีจินอีก 2 แบรนด์ ได้แก่ CAORUNN และ COLD STREAM จากโรงกลั่นที่สกอตแลนด์เช่นกัน โดยเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา กลุ่มไทยเบฟได้เข้าซื้อบริษัท แปซิฟิก สปิริท จำกัด ซึ่งมีกิจการโรงกลั่นสุราอยู่ 5 แห่งในสกอตแลนด์ เป็นเจ้าของแบรนด์สก็อตวิสกี้ และซิงเกิลมอร์ตชื่อดังจำนวนมาก อาทิ โอลด์ พุลทนีย์, สเปรย์เบิร์น เป็นต้น