“ดอยช้าง”เร่งขยายแฟรนไชส์ ปรับครั้งใหญ่เจาะลูกค้าวัยรุ่น-พรีเมี่ยม

“ดอยช้าง” รีแบรนดิ้งใหญ่ ปรับดีไซน์โลโก้-ร้าน รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ขยายฐานคอกาแฟพรีเมี่ยม ก่อนเร่งขายแฟรนไชส์ เน้นเปิดสแตนด์อะโลนขนาดใหญ่นอกห้างทั่วประเทศ คาด 3 ปี มี 300 สาขา ชูกาแฟแคปซูลเจาะตลาดโฮเรก้า ผนึก รร. 3 ดาวอัพ ตั้งเป้า 1 พันห้องพัก พร้อมปักธงญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์เพิ่มในสิ้นปี คาดเติบโต 15% ต่อเนื่อง

นายพิษณุชัย แก้วพิชัย ประธานที่ปรึกษา บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการปรับภาพลักษณ์ของกาแฟดอยช้างใหม่ อาทิ โลโก้ ดีไซน์และการตกแต่งของร้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์กาแฟในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เสริมทัพกับกลุ่มคอกาแฟพรีเมี่ยมที่เป็นฐานหลักในปัจจุบัน ในส่วนของธุรกิจร้านกาแฟ ได้ปรับแนวทางจากการขายไลเซนส์ หรือรูปแบบของร้านพันธมิตรที่นำสินค้าของดอยช้างไปใช้ เป็นการขยายตัวผ่านแฟรนไชส์ทั้งหมด โดยในช่วงแรกจะเชิญให้ร้านพันธมิตร ที่มีอยู่กว่า 200 ร้านค้า ให้มาเป็นแฟรนไชซีก่อนที่จะพิจารณาให้ผู้สนใจรายอื่น ๆ เพื่อสร้างแบรนด์อะแวร์เนสของร้านกาแฟดอยช้างให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งโมเดลแฟรนไชส์จะมีทั้งหมด 3 ไซซ์ เล็ก-กลาง-ใหญ่ ลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 – 3.5 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นกลางขึ้นไปเป็นหลัก ในรูปแบบของสแตนด์อะโลนนอกห้างสรรพสินค้า เพราะการแข่งขันในห้างค่อนข้างสูง และพื้นที่นอกห้างที่มีศักยภาพยังมีอีกมาก ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น อยุธยา ระยอง ฯลฯ

โดยตั้งเป้าขยายสาขาในปีนี้เพิ่ม 50 สาขา จากเดิมที่มี 50 สาขา และจะเพิ่มเป็น 300 สาขาภายใน 3 ปี โดยมีร้านขนาดใหญ่อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ร้าน นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะขยายตลาดโฮเรก้า หรือร้านอาหาร โรงแรมต่าง ๆ ภายใต้กาแฟแคปซูล ซึ่งจะป้อนเข้าโรงแรม 3 ดาวขึ้นไป ในเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจำนวนห้องพักที่ใช้กาแฟของดอยช้างอีก 1 พันห้องในปีนี้

“อัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยยังต่ำ อยู่ที่ 3 กก.ต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับต่างประเทศ เช่น เยอรมนี หรือฟินแลนด์ ที่มีการบริโภคอยู่ที่ 7 กก.ต่อคนต่อปี จึงเชื่อว่าตลาดร้านกาแฟมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท จะสามารถขยายตัวได้อีกมาก”


สำหรับตลาดในต่างประเทศ โซนเอเชีย จะใช้การขยายแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์ ในปีนี้เตรียมที่จะเข้าไปในญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์เพิ่ม หลังจากเข้าไปแล้วที่ในเกาหลี มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมา ส่วนโซนยุโรป เช่น แคนาดา อังกฤษ ฯลฯ จะขายผ่านรูปแบบการส่งเมล็ดกาแฟ และให้ตัวแทนเป็นผู้คั่วเมล็ดเอง ทั้งนี้ คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถทำให้ดอยช้างเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 15% ต่อปี