
คอลัมน์ : Market Move
ภาพยนตร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่เข้าฉายวันแรกเมื่อ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา กำลังถูกจับตามองจากผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในสหรัฐ ไม่เพียงเรื่องการทำยอดขายตั๋วจากฐานแฟนคลับที่จองตั๋วล่วงหน้ากันถล่มทลายถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังรวมถึงในฐานะตัวจุดกระแสความนิยมภาพยนตร์คอนเสิร์ตให้กลับมาอีกครั้ง และกลายเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ทำเงินให้กับวงการโรงภาพยนตร์ที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 นี้
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาต่างจับตาและรอลุ้นกับผลตอบรับของภาพยนตร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งอาจทำรายได้มากกว่าภาพยนตร์คอนเสิร์ตกึ่งสารคดี This Is It ของราชาเพลงพ็อป ไมเคิล แจ็กสัน ซึ่งรายได้ทั่วโลก 263.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังก่อนหน้านี้ AMC Entertainment ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ The Eras Tour เปิดเผยว่า ภาพยนตร์คอนเสิร์ตนี้ทำยอดขายตั๋วล่วงหน้าไปได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์คาดว่า วันเปิดตัวหรือศุกร์ที่ 13 ตุลาคม จะมียอดขายตั๋ว 40-60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการฉายช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แรกหรือวันที่ 14-15 ตุลาคม อาจจะมียอดขายตั๋วรวมทั่วประเทศสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากยอดขายตั๋วช่วงสุดสัปดาห์แรกเป็นไปตามคาดการณ์นี้ จะเป็นการสถิติหลายสถิติในวงการภาพยนตร์ ไม่ว่าจะสถิติภาพยนตร์ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในเดือนตุลาคม ซึ่งเดิมเป็นของภาพยนตร์ Joker เมื่อปี 2562 และสถิติรายได้ช่วงเปิดตัวของภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่เดิมเป็นของ Best of Both Worlds Concert ของไมลีย์ ไซรัส ที่ทำรายได้ไป 31.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ปัจจัยที่หนุนให้ The Eras Tour มีโอกาสโค่นแชมป์เก่าหลายตำแหน่ง เนื่องจากการเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่มีจำนวนโรงฉายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในกลุ่มเดียวกัน โดยเข้าฉายถึง 3,850 โรงทั่วสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นผลจากเทคนิคการตั้งราคาตั๋วที่สูงกว่าปกติ ด้วยการนำปีเกิดและลักกี้นัมเบอร์ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ มาเป็นราคาที่ 19.89 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ใหญ่ และ 13.13 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเด็ก
ระดับราคานี้สูงกว่าราคาเฉลี่ยของตั๋วภาพยนตร์ปกติที่อยู่ในระดับ 11-14 ดอลลาร์สหรัฐถึงประมาณ 40% และแน่นอนว่าตั๋วสำหรับโรงระดับพรีเมี่ยมอย่าง IMAX ก็สูงกว่าปกติด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้การที่แฟนคลับจำนวนมากไม่สามารถไปชมการแสดงสดได้ ไม่ว่าจะเพราะไม่สามารถหาตั๋วได้ หรือไม่สามารถสู้ราคานักเก็งกำไรได้ก็ตาม ยังทำให้มีดีมานด์ล้นมาถึงการชมภาพยนตร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ในโรงแทนด้วย ขณะเดียวกันยังมีผู้ที่เคยชมสดแล้วแต่อยากดูซ้ำด้วยเช่นกัน
ดีมานด์นี้สะท้อนจากการร่นเวลาเปิดฉายวันแรกในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาให้เร็วขึ้น 1 วันจากวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม เป็นวันพฤหัสฯที่ 12 ตุลาคม พร้อมประกาศเพิ่มรอบฉายในช่วงวันที่ 13-15 ตุลาคมอีกด้วย
พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์อาวุโสด้านสื่อของบริษัทวิจัย Comscore อธิบายว่า ด้วยกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการฉายภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคา จำนวนโรงที่เข้าฉาย ฯลฯ ทำให้แต่ละสำนักต่างคาดการณ์รายได้ช่วงเปิดตัวของ The Eras Tour ในระดับที่หวือหวาเป็นพิเศษ
นอกจากเม็ดเงินจากการขายตั๋วแล้ว อีกจุดที่ The Eras Tour จะสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์คือการขายสินค้าของที่ระลึก อาทิ กระป๋องป๊อปคอร์น แก้วน้ำ ฯลฯ ซึ่งตามปกติแล้วจะลงทุนทำในการฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เช่น ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวล หรือแอนิเมชั่นของดิสนีย์เท่านั้น
การฉาย The Eras Tour ครั้งนี้บรรดาโรงภาพยนตร์ทุ่มทุนไปไกลกว่า กระป๋องป๊อปคอร์น กับแก้วน้ำ แต่มีกระทั่งการสร้างเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษ บริการทำกำไลข้อมือที่ระลึกที่หน้าโรงภาพยนตร์ ซึ่งต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าแฟนเพลง
หาก The Eras Tour ประสบความสำเร็จอาจเป็นการพลิกฟื้นภาพยนตร์คอนเสิร์ตให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง มิเชล โอ’ เลียรี ซีอีโอของสมาคมเจ้าของโรงละครแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาพยนตร์คอนเสิร์ตประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ปรากฏการณ์ของ The Eras Tour จะเป็นการเปิดศักราชให้กับภาพยนตร์คอนเสิร์ต ซึ่งสมาคมหวังว่าความสำเร็จนี้จะช่วยให้มีการสร้างภาพยนตร์ประเภทนี้กันมากขึ้น