ซื้อกิจการ “กล้องวงจรปิด” โคนิก้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่

กล้องวงจรปิดพรีเมี่ยมแข่งเดือด “โคนิก้า” ผนึก “โมโบทิกซ์” แตกไลน์ธุรกิจ ใหม่ ชูจุดขายคุณภาพ-โซลูชั่นครบวงจร-ฟังก์ชั่นวิเคราะห์พฤติกรรม ตอบโจทย์ห้าง ร้าน องค์กรยุคดิจิทัล ตั้งเป้าเจาะฐานลูกค้าเก่า 4 พันราย ก่อนเร่งมือสื่อสารออฟไลน์/ออนไลน์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ เสริมทัพการเติบโตภาพรวมในปีนี้ไม่ต่ำว่า 15%

นายมาซาชิ มิยาโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า นโยบายของบริษัทต้องการสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับองค์กร แต่ยังต่อยอดกับธุรกิจเดิมที่มี ในปี 2559 ที่ผ่านมาบริษัทแม่ในญี่ปุ่น ได้เข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทกล้องวงจรปิด “โมโบทิกซ์” ในสัดส่วน 65.5% เนื่องจากเทรนด์การขยายตัวของกล้องวงจรปิดทั่วโลกอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อก ไปยังดิจิทัล และความตื่นตัวในเรื่องความปลอดภัย ทำให้มีความต้องการกล้องวงจรปิดระบบเน็ตเวิร์ก ที่เชื่อมต่อผ่านสายแลน หรือระบบไอพี ที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับแนวโน้มของตลาดในไทย บริษัทจึงได้ทำการเปิดตัวกลุ่มธุรกิจใหม่นี้ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ภายใต้แบรนด์โมโบทิกซ์ กล้องวงจรปิดระบบไอพี ซึ่งจัดอยู่ในตลาดพรีเมี่ยม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1 หมื่นบาทขึ้นไปต่อ 1 ตัว

โดยจุดเด่นของสินค้า คือการให้บริการที่ครบวงจร ทั้งตัวกล้อง ระบบซอฟต์แวร์การประมวลผลที่รองรับ โดยไม่ต้องซื้อแยก และสามารถอัพเดตได้ตลอด ต่างจากเจ้าอื่น ๆ ความหลากหลายรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานทุกรูปแบบ อาทิ การตรวจจับความร้อน ความสว่างในพื้นที่ที่มีแสงน้อย การแจ้งเตือน ฯลฯ และยังสามารถดึงข้อมูลจากกล้องมาใช้ในการวิเคราะห์เชิงต่าง ๆ ได้ เช่น การตรวจนับจำนวนคนที่เดินผ่านเข้าออกบริเวณประตู ตรวจสอบความถี่ของผู้บริโภคเมื่อเดินเข้าชมร้านค้า หรือเช็กความหนาแน่นในแต่ละช่วงเวลาได้ตอบโจทย์องค์กร ห้าง ร้าน ยุคใหม่ ที่ต้องการกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพ และสามารถนำข้อมูลไปใช้ทั้งการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนออกแบบการบริการ การตลาด ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

คาดว่าในปีแรกจะมียอดขายจากกล้องวงจรปิดประมาณ 100 ตัว หรือประมาณ 4-5 ล้านบาท และจะเติบโตอีกปีละ 20%