“ชิเซโด้” เขย่าราคาครีมกันแดด เพิ่มร้านขาย “แอนเนสซ่า-เซนกะ”

“ชิเซโด้” เขย่าราคากันแดด-โฟมล้างหน้ารุ่นฮิต “แอนเนสซ่า-เซนกะ” พร้อมปรับโฟกัสช่องทางจำหน่ายครั้งใหญ่ เน้นลุยซูเปอร์มาร์เก็ต ค้าปลีกความงาม เร่งสร้างการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ แก้ปมตลาดเกรย์มาร์เก็ต ก่อนเล็งนำเข้าแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ เสริมทัพเครื่องสำอางแมสทีจในเครือ

นางปาริชาติ วีระเสถียร ผู้จัดการทั่วไปแผนกคอสเมติกส์และเพอร์ซันนัลแคร์ บริษัท ชิเซโด้ (ไทนแลนด์) จำกัด ระบุว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้านราคา และช่องทางจัดจำหน่ายของสินค้าในกลุ่มแมสทีจ (ระดับราคากลางค่อนข้างสูง อยู่ระหว่างแมสและเคาน์เตอร์แบรนด์) โดยเน้นไปที่สินค้าไฮไลต์อย่างแบรนด์แอนเนสซ่า ที่เด่นด้านครีมกันแดด และแบรนด์เซนกะ ที่ขึ้นชื่อด้านโฟมล้างหน้าอย่าง เพอร์เฟ็ค วิป ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจำนวนมากเมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น

โดยก่อนหน้านี้แอนเนสซ่า มีช่องทางการจำหน่ายเฉพาะแค่ในห้างสรรพสินค้า ทำให้ต้องตั้งราคาสูงอยู่ที่ 1,400 1,500 บาท ขณะที่ญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 700-800 บาท และวางขายในร้านดรักสโตร์เป็นหลัก ปีที่ผ่านมาจึงปรับกลยุทธ์ของแอนเนสซ่าใหม่ เน้นการวางขายในช่องทางโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีกความงาม อาทิ วัตสัน บู๊ทส์ ซูรูฮะ อีฟแอนด์บอย ฯลฯ แทนห้างสรรพสินค้า และปรับราคาลงมาอยู่ที่ขวดละ 859 บาท สำหรับรุ่นเพอร์เฟค ยูวี ซันสกรีน หรือที่เรียกกันว่าสูตรสีทอง ขนาด 60 มล. ตลอดจนมีการปรับสูตรใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องผิว และเพิ่มสกินแคร์บำรุงผิวจากเดิม 50% เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่มากขึ้นของผู้บริโภค และการเข้าถึงสินค้าที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการใช้

“ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนไทยเป็นครั้งแรก เพื่อตอกย้ำแบรนด์อะแวร์เนสส่วนเซนกะเอง ก็มีกลยุทธ์ที่ใกล้เคียงกัน โดยในเดือนพฤษภาคมนี้สินค้าไฮไลต์อย่างโฟมล้างหน้า เพอร์เฟค วิป จะปรับราคาเหลือ 179 บาท จากเดิม 190 บาท ขณะที่ราคาตอนที่นำเข้ามาครั้งแรกอยู่ที่ 290 บาท พร้อมกับการดึงดาราสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” เป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อช่วยสร้างการจดจำ

“การเข้าถึงผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทั้งราคาและช่องทางจึงต้องเข้าถึงได้ง่าย เพราะไม่ต้องรอบินไปช็อปที่ญี่ปุ่น หรือเสี่ยงพรีออร์เดอร์จากเกรย์มาร์เก็ต ขณะที่การสร้างแบรนด์ก็ต้องทำควบคู่กัน อย่างก่อนหน้านี้คนรู้จักแต่เพอร์เฟค วิป แต่ไม่ค่อยรู้ว่าเป็นแบรนด์เซนกะ วันนี้เราจึงต้องมีพรีเซ็นเตอร์ ต้องทำทีวีซี เวลาทำโรดโชว์ แจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างก็ต้องสื่อสารถึงเซนกะ มากกว่าแค่ตัวผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว”

ซึ่งหลังจากการปรับแนวทางดังกล่าว ทำให้กลุ่มแมสทีจมียอดขายเติบโต 25% ในปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ตั้งเป้าหมายว่าจะรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวเอาไว้ และทำให้แอนเนสซ่า กับเซนกะ เป็นผู้นำในแคทิกอรี่ครีมกันแดดและโฟมล้างหน้า ในช่องทางโมเดิร์นเทรด

Advertisment

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนนำแบรนด์ในกลุ่มแมสทีจ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมอีก 2 แบรนด์ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอ รองรับความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น ตลอดจนศักยภาพของตลาดที่ยังขยายตัวได้อีกมาก