คิงเพาเวอร์ปั้น”มหานคร” ผุดดิวตี้ฟรีกลางกรุง ลั่นดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

แฟ้มภาพ

“คิง เพาเวอร์” เดินหน้าปั้นโครงการ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ขึ้นชั้นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เผยเตรียมเปิดร้านค้าดิวตี้ฟรี-ขายสินค้าที่ระลึกบนพื้นที่รีเทล รองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจุดชมวิว 360 องศา observation deck ตั้งเป้าเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้

หลังจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศทุ่มเงิน 14,000 ล้านบาท ซื้อโครงการมหานคร หนึ่งในอาคารที่มีความสูงที่สุดใจกลางกรุง จากบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) การเข้าซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ กลุ่มคิง เพาเวอร์ ได้เข้าถือครองทรัพย์สินในตึกมหานคร ได้แก่ โรงแรม, observation deck จุดชมวิวที่ดีที่สุด, พื้นที่รีเทล 4 ชั้น, อาคารรีเทลมหานครคิวป์ รวมถึงที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม

ล่าสุด นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และบริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ภายหลังงานแถลงข่าวเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งกลุ่มคิง เพาเวอร์ เป็นหนึ่งใน 9 องค์กรเอกชนที่ร่วมสนับสนุนว่า จะผลักดันและปั้นโครงการมหานครเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้บริการ สำหรับความชัดเจนของการเปิดให้บริการจะเห็นในช่วงปลายปีนี้

“โครงการนี้มีความน่าสนใจมาก อย่างจุดชมวิว observation deck เรามองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจมาก ส่วนการพัฒนาพื้นที่รีเทล เนื่องจากพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก เราจึงเตรียมทำเป็นร้านขายของที่ระลึกเข้าไปเสริม และอาจนำร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ เข้าไปเปิด กำลังพิจารณาอยู่ว่าตรงนั้นเหมาะสมในการเปิดหรือไม่ เพราะยังใหม่มาก คงต้องดูตามความเหมาะสม แต่คงไม่ถึงขั้นเปิดเป็นดิวตี้ฟรีดาวน์ทาวน์เต็มรูปแห่งใหม่” นายอัยยวัฒน์กล่าว

สำหรับในส่วนของโรงแรมในโครงการมหานคร ขนาด 155 ห้องพักนั้น นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ หลังจากลงทุนแห่งแรกในโรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ ที่ซอยรางน้ำไปแล้ว โดยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับแผนธุรกิจ เช่น จะรุกทำตลาดไหนเป็นพิเศษนั้นคงต้องคุยกับเชนรับบริหารอย่างแมริออท ซึ่งเป็นผู้ดูแลแบรนด์โรงแรม Edition ในตึกมหานครว่ามีแผนงานบริหารอย่างไร ซึ่งจุดนี้ต้องขอดูรายละเอียดตรงนี้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอัยยวัฒน์ได้เปิดเผยถึงเหตุผลที่ซื้อสินทรัพย์บางส่วนของโครงการดังกล่าวว่า เนื่องจากโครงการมหานครเป็นทรัพย์สินที่สอดคล้องกับธุรกิจที่กลุ่มคิง เพาเวอร์ ดําเนินการอยู่ คือ ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในอนาคต และพร้อมปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์สําคัญทางเศรษฐกิจ การค้า และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่สําคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต่อไป

โดยเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะเสริมความเข้มแข็งให้ธุรกิจในกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น โดยกลุ่มคิง เพาเวอร์ มีแผนเปลี่ยนชื่อทรัพย์สินดังกล่าวเป็น “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ด้วย

นายอัยยวัฒน์ยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าประมูลสัมปทานธุรกิจดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยว่า เมื่อไรก็ตามที่บริษัทท่าอากาศยานไทยพร้อมเปิดประมูล ก็พร้อมเข้าไปประมูลทันที

“เราไม่ได้เป็นคนเขียนทีโออาร์ ทาง ทอท.ต้องประกาศว่าพร้อมให้เข้าไปประมูลเมื่อไร เราก็จะไปประมูล ผมไม่ทราบว่า ทอท.จะทำอะไร และไม่แน่ใจว่ารูปแบบการให้สัมปทานจะเป็นแบบรายเดียวหรือแบบไหน เรื่องนี้ผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าถ้า ทอท.เตรียมให้มีการประมูล เราก็พร้อมประมูล” นายอัยยวัฒน์กล่าวปิดท้าย