
สัมภาษณ์พิเศษ
แม้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดกล้องดิจิทัลที่มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท จะอยู่ในภาวะที่หดตัว แต่ปัจจุบันตลาดกล้องดิจิทัลก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการท่องเที่ยว ที่ผู้คนเริ่มออกมาเที่ยวนอกบ้านมากยิ่งขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับกล้องดิจิทัลเองก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญ ที่ไม่ว่าจะทั้งคนไทย หรือชาวต่างชาติ ก็มักจะต้องพกติดตัวเพื่อถ่ายวิดีโอ หรือภาพเพื่อทำคอนเทนต์ลงในโลกโซเชียลอยู่เสมอ
ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมสนทนากับ “ธเนศ จารุธรรมาวงศ์” ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอิมเมจจิ้ง บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ที่มาอัพเดตและชี้เทรนด์ตลาดกล้องดิจิทัล รวมถึงแนวทางการรุกตลาดของโซนี่
Q : สถานการณ์-ภาพรวมตลาดกล้องดิจิทัลปัจจุบันเป็นอย่างไร
ถ้ามองย้อนหลังไปถึงช่วงก่อนโควิด-19 ภาพรวมของตลาดจะหดตัวระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่โควิด-19 คลี่คลายลงประมาณ 1-2 ปี ตลาดก็เริ่มฟื้นกลับมาเรื่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดจะมีความเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวพอสมควร ประกอบกับช่วงโควิด-19 กล้องดิจิทัลมีฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น การใช้งานในด้านของครีเอเตอร์ การถ่ายทําต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งก็ทําให้ตลาดฟื้นกลับมาพอควร 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับปีนี้ผ่านมา 4-5 เดือน ตลาดก็มีการเติบโต บวกเกือบ ๆ 20% เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ส่วนการเติบโตในอนาคต ส่วนหนึ่งก็ยังต้องพึ่งพาเรื่องการท่องเที่ยวอยู่เหมือนเดิม และอีกด้านหนึ่งจะเป็นในเรื่องของเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น Creator ที่เติบโตมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 และมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากช่วงนั้นมีข้อจำกัดต่าง ๆ หลายเรื่อง จึงทำให้คนหันมาทดลองเป็นครีเอเตอร์ หัดทําคอนเทนต์ต่าง ๆ มากขึ้น จึงทําให้ตลาดโตค่อนข้างกระโดดพอสมควร
Q : โซนี่วางแนวทางการทำตลาดอย่างไรบ้างเพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าว
จากเทรนด์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว โซนี่ พยายามจะ Capture ด้วย Device ต่าง ๆ ที่มีอยู่ ซึ่งที่ผ่านมา โซนี่ได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์เทรนด์นี้มา 3-4 ปีแล้ว และทําให้วันนี้ โซนี่มีความพร้อมค่อนข้างมากในการที่จะ Serve กลุ่มที่เป็น Creator หรือการใช้งานระดับ Creator และที่จะโฟกัสมากขึ้นในปีนี้ คือ Cinema Line ที่เป็นการถ่ายทําหนังภาพยนตร์ ที่จะเป็นการโฟกัสในเชิง Professional มากขึ้น
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณสัก 2 ปีที่ผ่านมา ที่บริษัทได้เริ่มมีการทำการตลาด Cinema Line มาแล้วระดับหนึ่ง ถ้าเป็นตลาดต่างประเทศ ยกตัวอย่างในวงการภาพยนตร์ เช่น Hollywood Cinema Line ของโซนี่ ก็จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการถ่ายทําหนังมากมาย โดยมีโปรดักต์ตัวหนึ่งที่เป็นท็อปไลน์ของโซนี่ เราเรียกว่า VENICE 2 ซึ่งเป็นกลุ่ม Cinema Line หรือเราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า CineAlta และในประเทศไทยก็ได้เริ่มเปิดตัวโปรดักต์ในกลุ่ม Cinema Line ด้วยการเปิดตัว FX Series ซึ่งมี 3 รุ่น คือ FX30, FX3 และ FX6
สำหรับปีนี้บริษัทจะมีโปรดักต์เข้ามาเพิ่มอีก เป็นรุ่นที่ใช้สำหรับการถ่ายทําภาพยนตร์ รวมถึง Creator Content เพื่อรองรับเทรนด์ครีเอเตอร์ หรือคนทําคอนเทนต์ หรือมีเดีย ที่พยายามจะหาโปรดักต์ใหม่ ๆ เข้ามาเติมเรื่องเทคโนโลยี หรือการถ่ายทํามากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมที่จะขยายไปอีกขั้นหนึ่งคือ กลุ่มที่เป็น CineAlta ที่มีโปรดักต์ 2 ตัว คือ BURANO และ VENICE 2 ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะเข้ามาเติมเต็มที่ทำให้การโฟกัสกลุ่มการถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายทํามิวสิกวิดีโอ ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
โดยตลาดตรงนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะให้คนทำงานด้านนี้ได้มีโอกาสที่จะทดลองใช้ ได้มีโอกาสสัมผัส กับเทคโนโลยีที่มีความ Advance มีหลาย ๆ Function หลาย ๆ Feature ที่ตอบโจทย์งานหนังงานภาพยนตร์ และสร้างความพึงพอใจให้เหมือนกับที่โซนี่เคยทํามาในกลุ่มของผู้บริโภค
Q : แพลนสำหรับโปรดักต์อื่น ๆ
นอกเหนือจาก Cinema Line ที่โฟกัสเป็นพิเศษแล้ว สำหรับกลุ่มผู้บริโภค หรือ Consumer โซนี่ก็ไม่ทิ้ง ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละปีก็จะมีสินค้าใหม่ออกมาไม่ต่ำกว่า 5-6 รายการ
แน่นอนว่าในกลุ่มที่เป็น Consumer โซนี่ยังคงโฟกัสเรื่องของ Product ใหม่ Feature ใหม่ ไม่ใช่แค่ Product ใหม่ที่เป็น Hardware แต่ยังรวมถึง Firmware Update, Accessories ต่าง ๆ เช่น เลนส์ เป็นต้น
สำหรับปีนี้ โปรดักต์ในกลุ่ม Consumer ที่โฟกัสมากเป็นพิเศษ ก็คือ AI ที่เราเรียกว่า AI Power ซึ่งจริง ๆ แล้วเราโฟกัสมาตลอด 3-4 ปี ด้วย AI ตัวใหม่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการโฟกัส เป็นการใช้ AI มาทําเรื่องของ Eye Tracking
โปรดักต์ใหม่ ๆ ที่จะทยอยออกมาจะเป็นการต่อยอดเพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มครีเอเตอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มโปรดักต์ของ Consumer จะมีอยู่ 2 เซ็กเมนต์ คือ กล้องที่เป็นกลุ่ม Hybrid หรือกล้องที่สามารถถ่ายได้ทั้งวิดีโอและภาพนิ่งในตัวเดียวกัน
และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ Vlog หรือการบันทึกเรื่องราวโดยเล่าในรูปแบบวิดีโอ ที่ขึ้นต้นด้วย ZV Series เช่น Alpha 7CM2 หรือ Alpha 7M4 ซึ่งเป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ และเป็นที่นิยมมากในหมู่คนที่เป็น Creator ที่มีความ Advanced ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
ทั้ง 2 กลุ่มนี้ โซนี่ยังเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Firmware ฮาร์ดแวร์เอง หรือว่า Product ใหม่
Q : ในแง่ของความคาดหวัง หรือเป้าหมายการเติบโต
นอกเหนือจากเรื่องมาร์เก็ตแชร์หรือยอดขายที่โตขึ้นแล้ว โซนี่ยังมองถึงเรื่องของการรักษาฐานกลุ่มลูกค้าของเรา ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสร้างฐานลูกค้าไว้เป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่โซนี่พยายามจะกระตุ้น หรือทําให้กลุ่มลูกค้าของโซนี่ที่อาจจะเงียบหายไปบ้างในช่วงโควิด-19 กลับมาสนุกกับการใช้กล้องหรือการถ่ายภาพอีกครั้งหนึ่ง
โดยปีนี้ โซนี่จะมีการโฟกัสในเรื่องของ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการกลับมาใช้งานกล้องใหม่ กลับมาเข้า Community ใหม่ หรือกลับมา Engage กับบริษัท เพื่อที่จะต่อยอดต่อไปในอนาคต
ส่วนกลุ่ม Cinema Line หรือ CineAlta เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรก เพราะฉะนั้น แน่นอนว่าในช่วง 1 ปี อาจจะยังไม่สามารถมองเห็นผลได้อย่างมีนัยสำคัญนัก แต่ในช่วง 3 ปี เราต้องการขึ้นไปถึงจุดที่สูงสุดของกลุ่ม Cinema Line หรือ Filmmaker ให้ได้ ด้วยมีการทํากิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์ Roadmap ที่วางไว้
นอกจากจุดแข็งในเรื่องของโปรดักต์แล้ว โซนี่ยังจะอาศัยจุดแข็งจากการมีเครือข่ายธุรกิจบันเทิงที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นโซนี่ พิคเจอร์ส, โซนี่ มิวสิค ซึ่งจะทำให้มี Feedback หรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ จาก Director หรือ DOP (Director of Photography) หรือ ผู้กำกับภาพ ที่จะสามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดโปรดักต์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Q : ปูพรมโรดโชว์เจาะมหา’ลัย
การประกาศโฟกัสการรุกตลาด Cinema Line ของโซนี่ ในปีนี้ นอกจากจะมีกล้อง 2 รุ่น คือ BURANO และ VENICE 2 เป็นหัวหอกแล้ว โซนี่ยังจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มาซัพพอร์ต เพื่อสร้างการรับรู้และดึงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามีส่วนร่วม
หนึ่งในนั้นคือ กลุ่ม Young Film Maker หรือคนรุ่นใหม่ที่กําลังจะก้าวมาเป็น Filmmaker ซึ่งเพิ่งจบไปและมีการประกาศรางวัลไปแล้ว โดยจะมี Candidate Submission 1 คน จากประเทศไทย เดินทางไปร่วมงาน Sony Future Filmmaker Awards 2024 และเยี่ยมชมสตูดิโอ โซนี่ พิคเจอร์ส ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ส่วนอีกกิจกรรมหนึ่ง โซนี่จะมีการจัดกิจกรรมด้วยการไปโรดโชว์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัย หรือคณะที่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับมัลติมีเดีย หรือภาพยนตร์ ปีนี้มีแพลนจะไปโรดโชว์ร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัย
เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ โซนี่ไทย ร่วมสนับสนุนค่ายเวิร์กช็อป โดยร่วมกับ RAiNMaker ครีเอเตอร์คอมมิวนิตี้ชั้นนำ และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรม “iCreator Camp 2024 Presented by Sony” เปิดโอกาสให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่เข้าร่วมแคมป์เวิร์กช็อปติวเข้ม จากคอนเทนต์ครีเอเตอร์แถวหน้าของเมืองไทย และอาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ จนถึงรอบไฟนอล (18 พ.ค.-22 มิ.ย.) พร้อมลงมือปฏิบัติสร้างสรรค์คอนเทนต์ เพื่อชิงรางวัลชุดกล้อง และอุปกรณ์สำหรับ Content Creator ครบชุดจากโซนี่ มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท