
เปิดประวัติ-รายได้ “แอโร่ซอฟ (Aerosoft)” แบรนด์รองเท้าสัญชาติไทย ผู้เป็นหัวหอกสำคัญในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2024
“เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ…” คงกลายเป็นประโยคที่หลอนหูผู้ชมการถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2024 ทางฟรีทีวีไม่น้อย เพราะการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ แอโร่ซอฟ (Aerosoft) เป็นแม่งานใหญ่จากภาคเอกชน ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดโปรแกรมดังกล่าวมาให้คนไทยได้ชมกัน
หลังจากเมื่อปี 2564 เคยทุ่มเงิน 310 ล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2020 มาให้คนไทยได้รับชม ก่อนเริ่มการแข่งขันเพียงไม่กี่วัน
และแม้ว่าหลายคนอาจได้ยินชื่อ “แอโร่ซอฟ” เป็นครั้งแรก ๆ จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร แต่แบรนด์ดังกล่าว โลดแล่นอยู่ในตลาดรองเท้าเมืองไทย มากว่า 40 ปี
“ประชาชาติธุรกิจ” พาไปรู้จักความเป็นมา และผลประกอบการของรองเท้าแบรนด์นี้ให้มากขึ้น
รู้จัก “แอโร่ซอฟ”
รองเท้าแอโร่ซอฟ หรือบริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2522 โดย นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรคนที่ 4 ใน 5 พี่น้องต้นตระกูลจุฬางกูล-จึงรุ่งเรืองกิจ ประกอบธุรกิจผลิตรองเท้าแตะ รองเท้าพยาบาล รองเท้าผ้าใบ และรองเท้าสุขภาพ มีที่ตั้งโรงงาน อยู่ในพื้นที่หน้าโรงงาน Thai Summit Auto Industry ที่นายพัฒนา เป็นคนจัดหาที่ดินให้
จุดขายของแบรนด์รองเท้า แอโร่ซอฟ คือ การเป็นรองเท้าสุขภาพ ที่ผลิตด้วยวัสดุโพลียูรีเทน (Polyurethane : PU) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ลดแรงกระแทกจากการเดิน และออกแบบพื้นรองเท้าให้รองรับอุ้งเท้า (Arch Support) คิดค้นโดยนักสรีรวิทยา
อีกทั้งยังใช้การผลิตแบบ Direct on Upper ซึ่งเป็นการฉีด PU เพื่อสร้างพื้นรองเท้าและพื้นรองเท้าด้านบนติดกันเป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยเพิ่มความทนทานของรองเท้า
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์รองเท้าภายใต้แบรนด์ แอโร่ซอฟ (Aerosoft) มีทั้งหมด 4 แบรนด์ คือ
- Aerosoft Arch Support (รองเท้าพยาบาล, รองเท้าคัสชู, รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าแตะ หญิง-ชาย)
- Aerosoft Extra Soft (รองเท้านักเรียน, รองเท้าแตะ หญิง-ชาย)
- Aerosoft Soft Step (รองเท้าแตะ หญิง-ชาย)
- Mario by Aerosoft (รองเท้าแตะ)
ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายของรองเท้าแอโร่ซอฟ ส่วนใหญ่จำหน่ายในไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านจำหน่ายรองเท้า แผนกรองเท้าในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าต่าง ๆ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีบริษัทย่อยในต่างประเทศ อาทิ บริษัท แอโร่ซอฟ ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด (ประเทศกัมพูชา)
ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ ฟุตบอลยูโร
ชื่อของ “แอโร่ซอฟ” ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก หลังจากเมื่อปี 2564 ซัมมิท ฟุตแวร์ เป็นสปอนเซอร์หลักและสปอนเซอร์เจ้าเดียวในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2020 ให้แฟนบอลชาวไทยได้รับชมทางช่อง NBT โดยมีมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านบาท และเป็นการซื้อที่เกิดขึ้นก่อนจะเริ่มการถ่ายทอดสดเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
และการถ่ายทอดสดในครั้งนั้นเอง มีการใช้กลยุทธ์การทำตลาด Music Marketing เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ ซึ่งใช้เวลาในการแต่งเพลงเพียงแค่ 1 วันก่อนการแข่งขัน โดยได้ พลพล พลกองเส็ง ร้องเพลงดังกล่าว พร้อมท่อนจำสำคัญ “เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ…” และภายหลังมีการทำเพลงในเวอร์ชั่นอื่น ๆ เพิ่มอีก 6 เวอร์ชั่น
และในปี 2567 ซัมมิท ฟุตแวร์ เป็นแม่งานใหญ่อีกครั้งในการถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2024 โดยร่วมกับรัฐบาล และภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (บางกอกแอร์เวย์ส) เพื่อถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม ผ่าน 3 ช่องฟรีทีวี คือ PPTV HD 36, ไทยรัฐทีวี และช่อง 9 MCOT HD
ทั้งนี้ การซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2024 ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขมูลค่าการซื้อลิขสิทธิ์ เนื่องจากเป็นความลับระหว่างทางภาคเอกชนกับทางสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) บอกเพียงแค่ว่ามูลค่ามากกว่าการแข่งขันฟุตบอลยูโรคราวที่แล้ว
ขณะที่การโปรโมตโฆษณารอบนี้ ยังคงใช้เพลงประกอบเหมือนเมื่อครั้งการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร 2020 และได้ พลพล พลกองเส็ง ร้องเพลงให้เช่นเดิม แต่เพิ่มการโปรโมตสินค้าของแอโร่ซอฟลงไปด้วย
เปิดรายได้ “ซัมมิท ฟุตแวร์” 5 ปีล่าสุด
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2522 ประกอบธุรกิจการผลิตรองเท้าอื่น ๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น (รองเท้าพื้นรองเท้า พี ยู) ตั้งอยู่ที่ 5/4 ถนนบางนา-ตราด ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 40,000,000 บาท
โดยผลประกอบการของ ซัมมิท ฟุตแวร์ ปี 2562-2566 เป็นดังนี้
ปี 2562
- รายได้รวม 1,039,122,293.62 บาท
- รายจ่ายรวม 1,036,759,561.72 บาท
- ขาดทุนสุทธิ 2,095,802.19 บาท
ปี 2563
- รายได้รวม 663,289,010.89 บาท
- รายจ่ายรวม 648,651,017.56 บาท
- กำไรสุทธิ 13,649,628.14 บาท
ปี 2564
- รายได้รวม 1,160,328,626.90 บาท
- รายจ่ายรวม 890,972,428.73 บาท
- กำไรสุทธิ 268,762,837.38 บาท
ปี 2565
- รายได้รวม 889,516,216.62 บาท
- รายจ่ายรวม 894,660,754.96 บาท
- ขาดทุนสุทธิ 6,227,644.48 บาท
ปี 2566
- รายได้รวม 713,640,785.56 บาท
- รายจ่ายรวม 860,827,544.22 บาท
- ขาดทุนสุทธิ 147,899,072.41 บาท
ข้อมูลจาก มติชน, มติชนสุดสัปดาห์, แอโร่ซอฟ