
รายได้ไตรมาส 2 ปี 2567 ของแอลจี ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ที่ 21.69 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 5.7 แสนล้านบาท และกำไร 1.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท หลังชิ้นส่วนยานยนต์โตสวนกระแส EV ซบ และกระแสบูม AI ช่วยสร้างดีมานด์ระบบปรับอากาศ
วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด (LG) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 ผลการดำเนินงานทั้งด้าน รายได้ และ กำไรจากการดำเนินงาน สร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ด้วยอานิสงส์จากเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์
โดย แอลจี กวาดรายได้รวมอยู่ที่ 21.69 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 5.7 แสนล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 1.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 8.5% และ 61.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566
ยักษ์อุตสาหกรรมเกาหลี อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญของการเติบโตนี้มาจาก ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งทั้งสองธุรกิจสามารถสร้างรายได้รายไตรมาส 2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
AI หนุนดีมานด์ระบบปรับอากาศ
โดยธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ ไตรมาส 2 มีรายได้ 8.84 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.38 แสนล้านบาท และมีกำไรฯ 6.94 แสนล้านวอน หรือประมาณ 1.87 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนรายได้เพิ่มขึ้น 11% และผลกำไรฯ เพิ่มขึ้น 16% ซึ่งถือเป็นยอดรายได้สูงสุดในช่วงไตรมาสเดียว และเป็นกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หลังอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี AI ช่วยสร้างดีมานด์ระบบทำความร้อน ระบายอากาศ และปรับอากาศ (HVAC) รวมถึงเครื่องทำความเย็นประสิทธิภาพสูง
ทีวีพรีเมี่ยมขายดีในยุโรป
ส่วนธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สร้างรายได้ในไตรมาส 2 คิดเป็นมูลค่า 3.62 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 9.64 หมื่นล้านบาท และมีกำไรฯ 9.7 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 2.58 พันล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของดีมานด์ในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของทีวีระดับพรีเมียมอย่าง OLED
นอกจากนี้ ธุรกิจคอนเทนต์และบริการบนแพลตฟอร์ม webOS ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดผลกำไรจากผลประกอบการลดลงเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยเรื่องราคาของจอ LCD ที่สูงขึ้น
ชิ้นส่วนยานยนต์โตสวนตลาด EV ซบ
ด้านธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ไตรมาส 2 มีรายได้ 2.69 ล้านล้านวอน ประมาณ 7.24 หมื่นล้านบาท และมีกำไรฯ 81.7 พันล้านวอน ประมาณ 2.2 พันล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และกำไรฯ กลับมาเป็นบวก นับเป็นรายได้สูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และมีกำไรฯ แข็งแกร่งที่สุดในช่วงไตรมาส 2 เช่นกัน
ทั้งนี้เนื่องจาก แม้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะชะลอตัว แต่กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ยังเติบโตได้จากการมีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน
ต้นทุน LCD ฉุดธุรกิจโซลูชั่น
สำหรับธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร ไตรมาส 2 มีรายได้ 1.46 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.89 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตามยังขาดทุน 5.9 พันล้านวอน หรือประมาณ 157 ล้านบาท
เนื่องจากแม้ยอดขายจอแสดงผล LED ป้ายอิเล็กทรอนิกส์ กระดานอิเล็กทรอนิกส์ และจอเกมมิ่งมอนิเตอร์ จะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาจอ LCD ที่สูงขึ้น และการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่มีการเติบโต เช่น ธุรกิจชาร์จพลังงานของยานยนต์ไฟฟ้าและหุ่นยนต์ ทำให้ผลประกอบการยังขาดทุน