มากุโระ เดินสายปักธงสาขา 4 ย่านสำคัญ เซ็นทรัลเวิลด์, กรุงเทพกรีฑา, พระราม3 และเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา พร้อมเล็งเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ช่วงไตรมาส 3-4 นี้ มั่นใจดันรายได้เติบโต 30%
วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 มากุโระ สปีดสาขาครึ่งปีหลัง ปูพรมเพิ่มอีก 11 สาขา เจาะ 4 ทำเลสำคัญของกทม. ทั้งกรุงเทพกรีฑา เซ็นทรัลเวิลด์ พระราม 3 และเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา พร้อมซุ่มพัฒนาอีก 2 แบรนด์ เตรียมเผยโฉมเร็ว ๆ นี้ รวมถึงยังมีเมนูใหม่ตอบโจทย์กลุ่มทานคนเดียว-ทานเป็นคู่ที่กำลังมาแรงอีกด้วย
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในครึ่งหลังของปี 2567 นี้ บริษัทเดินหน้าขยายกิจการ ด้วยการเปิด 11 สาขาใหม่ รวมเป็นการเปิดร้านใหม่ทั้งหมด 13 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าระดับพรีเมียม และ พรีเมียม-แมส ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
ชิง 4 ทำเลทอง
มีไฮไลท์เป็นการส่งสาขาปักธงใน 4 ทำเลสำคัญของกทม. คือ กรุงเทพกรีฑา เซ็นทรัลเวิลด์ พระราม 3 และเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา โดยเฉพาะที่กรุงเทพกรีฑาซึ่งจะเปิด 2 แบรนด์พร้อมกันทั้ง มากุโระ และ ฮิโตริชาบู เพื่อชิงดีมานด์ในย่านบ้านหรู
การสปีดสาขานี้ทำให้สิ้นปี 2567 บริษัทจะมีสาขาทั้งหมด 38 ร้าน จาก 6 แบรนด์ คือ MAGURO, SSAMTHING TOGETHER, HITORI SHABU, HITORI SUKIYAKI และแบรดน์ใหม่อีก 2 แบรนด์ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
เมนูใหม่ตอบโจทย์ทานเดี่ยว-คู่
ผู้บริหารมากุโระ เสริมว่า นอกจากการขยายสาขาแล้ว บริษัทยังต่อยอดข้อมูลอินไซต์ของลูกค้าออกมาเป็นเมนูใหม่สำหรับตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มาทานคนเดียว หรือมาเป็นคู่ซึ่งเป็นในฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ อาทิ เมนู Lady’s Salmon ซาชิมิแซลมอน 5 ชิ้น ที่หั่นมาในขนาดพอดีคำ และ Perfect Portion Salmon ซาชิมิแซลมอนขนาดใหญ่จำนวน 4 ชิ้น
ทั้งนี้ยังคงเป็นไปตามแนวคิด ‘Give More Culture’ หรือ การให้มากกว่าที่ขอ’ เช่นเดิม
นายเอกฤกษ์ ย้ำความมั่นใจว่า การเปิด 13 ร้านใหม่ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 11 ร้าน และแบรนด์ใหม่อย่างน้อย 3 แบรนด์ คือ HITORI SUKIYAKI และอีก 2 แบรนด์ใหม่ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4 นี้จะสร้างรายได้รวมของบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย 30% แน่นอน