“โตชิบา” เสริมเขี้ยวชิงยอดขาย เพิ่มไลน์ผลิต “ตู้เย็น-เครื่องซักผ้า” ในไทย

toshiba

โตชิบา มั่นใจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งหลังปี’67 ยังมีดีมานด์ เดินหน้าเสริมเขี้ยวเล็บสินค้า-บริการ-ไลน์ผลิตชิงมาร์เก็ตแชร์ ขยายไลน์ผลิตตู้เย็น เครื่องซักผ้าจากจีนกลับไทย หวังเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ปูพรมสินค้าระดับบนย้ำโพซิชั่นพรีเมี่ยม ผุดศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส-บริการซ่อมถึงบ้าน พร้อมรีโนเวตร้านค้า มั่นใจปี’67 นี้โต 20% ตามเป้าแน่นอน

นายอเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ฉายภาพตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นี้ว่า ตลาดยังคงมีดีมานด์โดยเฉพาะสินค้าระดับกลาง-บนไปจนถึงพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักและอบผ้าที่ตอบโจทย์สภาพอากาศช่วงหน้าฝน และการขยายตัวของที่อยู่อาศัย หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กซึ่งจะมีความต้องการสูงในช่วงเทศกาลปลายปีจากการซื้อเป็นของขวัญและของจับสลาก สะท้อนจากสัดส่วนการขายสินค้าระดับกลางบนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตลอดช่วงครึ่งปีแรก

ขณะเดียวกันเชื่อว่า ผู้บริโภคในจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่าง ภูเก็ต และเมืองรองจะยังมีกำลังซื้อ เนื่องจากเทรนด์ท่องเที่ยวด้วยตัวเองเป็นกลุ่มเล็กของชาวต่างชาติและการกระตุ้นของรัฐบาลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินกระจายตัวไปจังหวัดรอง ๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตามีเพียงสถานการณ์ต่างประเทศ เช่น ความผันผวนของค่าเงิน

จากสถานการณ์นี้ บริษัทจึงมุ่งสานต่อยุทธศาสตร์ก้าวสู่แบรนด์พรีเมี่ยมแบบรอบด้านด้วยทัพสินค้า บริการรูปแบบใหม่ และการรีโนเวตร้านค้า พร้อมกับเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าให้สามารถทำราคาที่จับต้องง่ายได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการขยายไลน์การผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าระดับบนในไทยให้มากขึ้นจากเดิมที่ผลิตในจีน เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านสินค้า ราคา ไปจนถึงความมั่นใจของคู่ค้าและลูกค้า

เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

สำหรับสาเหตุของการขยายไลน์การผลิตสินค้าระดับกลาง-บนจากจีนกลับมายังไทยนั้น เนื่องจากข้อได้เปรียบหลายด้าน อาทิ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน ต้นทุนที่ดีขึ้นเพราะค่าขนส่งลดลง ประสิทธิภาพการผลิตและกำลังผลิตที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

โดยจากนี้จะขยายไลน์การผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ตู้เย็นแบบไซด์บายไซด์ ซึ่งจะมาผลิตที่โรงงานในระยองในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ หลังก่อนหน้านี้นำเครื่องซักผ้าฝาหน้า และตู้เย็นแบบ 2 ประตูเข้ามาผลิตในไทยแล้ว ร่วมกับตู้เย็นแบบ 1 ประตู ซึ่งไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกอยู่แล้ว

Advertisment

“เราพยายามขยายไลน์การผลิตรุ่นพรีเมี่ยมในไทยให้มากที่สุด เพราะหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ข้อได้เปรียบของการผลิตในจีนก็หายไป ทั้งจากค่าขนส่งข้ามประเทศที่สูงขึ้นไปถึง 3 เท่าตัว และความผันผวนของค่าเงิน”

ย้ำพรีเมี่ยมแบรนด์ครบลูป

ขณะเดียวกันจะยกระดับและย้ำความพรีเมี่ยมของแบรนด์ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวบริการหลังการขาย 2 โมเดลใหม่ คือ ศูนย์บริการวันสต็อปเซอร์วิสที่บริษัทโตชิบาดำเนินการโดยตรง ชูจุดเด่นอย่าง อะไหล่แท้ มาตรฐานการซ่อม รวมถึงความรวดเร็ว-ปลอดภัย เริ่มทดลองสาขาแรกที่จังหวัดนครราชสีมาในเดือนสิงหาคม อีกโมเดลจะเป็นทีมรถโมบายให้บริการซ่อมถึงบ้านของลูกค้าสำหรับสินค้าพรีเมี่ยม และการขนส่งอะไหล่แบบด่วน ซึ่งเริ่มทดลองแล้วในบางพื้นที่

Advertisment

ทั้งนี้เพื่อการยกระดับสู่แบรนด์พรีเมี่ยมของบริษัทนั้นครบลูป เช่นเดียวกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าในการรับสินค้าของบริษัทไปวางขาย หลังช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเปิดตัวสินค้าที่พรีเมี่ยมมากขึ้น และปรับโฉมร้านค้า-พื้นที่จำหน่ายเป็นสไตล์พรีเมี่ยมไปก่อนแล้ว โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเดินสายรีโนเวตร้านค้าอีกกว่า 100 แห่ง โดยเน้นนำเสนอจุดเด่นด้านดีไซน์ของสินค้าที่เข้ากับการตกแต่งบ้าน มากกว่าการโชว์สินค้าจำนวนมาก ๆ แบบเดิม

ส่งทัพ 27 สินค้าใหม่ชิงส่วนแบ่ง

ด้านสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเน้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กระดับพรีเมี่ยม ที่มีจุดเด่นทั้งนวัตกรรมและดีไซน์เรียบหรู เพื่อชิงดีมานด์ช่วงเทศกาลช็อปปลายปี ซี่งผู้บริโภคจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กเป็นของขวัญ และของจับสลาก

มีไฮไลต์ อาทิ หม้อหุงข้าวระบบอินดักชั่น รุ่น RC-18IH1TTH(N) ความจุ 1.8 ลิตร เตาอบไมโครเวฟ รุ่น MX-1TH23SC(WH) ความจุ 23 ลิตร แบบ 4 in 1 ทั้งนึ่ง อบ อุ่น และย่าง รวมถึงสามารถนึ่งฆ่าเชื้อภาชนะและขวดนมได้ด้วย และเครื่องทำน้ำอุ่น TWH-60EFNTH(K)-RS ขนาด 6,000 วัตต์ ที่มีระบบคุมอุณหภูมิแบบใหม่

ตู้เย็นซีรีส์ JAPANDI จำนวน 2 รุ่น คือ ตู้เย็น 4 ประตูแบบมัลติดอร์ ความจุ 18.9 คิว และตู้เย็น 4 ประตูแบบเฟรนช์ดอร์ ความจุ 18.8 คิว ที่ออกแบบมาตอบโจทย์การแต่งบ้านแบบบิลต์อิน สไตล์มินิมอล ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคระดับบนรุ่นใหม่

รวมถึงเครื่องซักอบผ้า รุ่น TWD-T21BU115UWT(MG) ความจุซัก 10.5 กิโลกรัม และอบ 7 กิโลกรัม ที่มาพร้อมโปรแกรม Aroma+ เพิ่มระยะเวลาการปรับผ้านุ่มให้ยาวขึ้น ตอบโจทย์ความนิยมใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มของคนไทย

พร้อมระดมโปรโมชั่นต่อเนื่องตลอด 2 ไตรมาส โปรโมชั่นให้ส่วนลดออนท็อปเมื่อซื้อสินค้า 2 ชิ้น และอีเวนต์ใหญ่ที่สยามพารากอน ซึ่งจะพาพรีเซ็นเตอร์ หมาก-ปริญ ลงพื้นที่พบผู้บริโภคและจัดกิจกรรมร่วมสนุกก่อน ตามด้วยโปรโมชั่นกระตุ้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กช่วงปลายปีอีกด้วย

ทั้งนี้มั่นใจว่าทั้งไลน์อัพสินค้าใหม่ระดับพรีเมี่ยม และการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นและอีเวนต์ต่อเนื่องตลอดไตรมาส 3-4 จะช่วยผลักดันให้ปี 2567 นี้ รายได้ของโตชิบาเติบโต 20% ตามเป้าที่วางไว้