บิวตี้บุฟเฟต์ โชว์ผลงานครึ่งปีแรกปี’67 กวาดรายได้ 216.4 ล้านบาท

บิวตี้บุฟเฟต์
บิวตี้บุฟเฟต์ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 รายได้รวม 216.4 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 31.7 ล้านบาท ปัจจัยจากยอดขายตลาดต่างประเทศชะลอตัว ส่วนครึ่งปีหลังเตรียมปรับกลยุทธ์การขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในจีน มองตลาดในประเทศยังเติบโต

วันที่ 13 สิงหาคม 2567 นายพิศาล ธาราพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้รวม 216.4 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 31.7 ล้านบาท ไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้รวม97.6 ล้านบาท ขาดทุนทางบัญชีสุทธิ 30.0 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลขาดทุนทางบัญชีสุทธิมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างธุรกิจซึ่งเป็นการจ่ายครั้งเดียวที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-routine expenses) จำนวน 10.5 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย

  • การกลับรายการสำรองสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีสำหรับรายการขาดทุนทางภาษีที่ยังไม่ได้ใช้ 8.2 ล้านบาท
  • การตั้งค่าเผื่อบรรจุภัณฑ์เสื่อมสภาพ (Stock Provision) 1.4 ล้านบาท
  • ค่าใช้จ่ายจากการด้อยค่าทรัพย์สินสาขาที่ขาดทุน 0.9 ล้านบาท

ดังนั้น บริษัทมีผลประกอบการจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 ขาดทุนอยู่ที่ 19.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ สาเหตุที่ผลประกอบการยังมีขาดทุนสุทธิ จากยอดขายในตลาดต่างประเทศชะลอตัว ลดลง 39.4% โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของบริษัท ทำให้ยอดสั่งซื้อสินค้าในช่วงไตรมาส 2 ชะลอตัวลง

ขณะที่ยอดขายในประเทศอื่น ๆ ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนยอดขายตลาดในประเทศยังเติบโตในเกณฑ์ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 159.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่144.1 ล้านบาท เติบโต 10.5% โดยช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกช่องทางประกอบด้วย

  • ร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET เติบโต 3.4%
  • อีคอมเมิร์ซ เติบโต 12.3%
  • โมเดิร์นเทรด อาทิ Kingpower, Eveandboy เติบโต 40.3%
  • และเจนเนอรัลเทรด เติบโต 52.8%

ปัจจุบันยอดการสั่งซื้อของตลาดในประเทศจีนกลับสู่สภาวะปกติแล้ว และมีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นไตรมาส จากการปรับกลยุทธ์ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายประเทศจีนอย่างใกล้ชิด ประกอบกับผลิตภัณฑ์ของBEAUTY ยังคงได้รับความนิยม เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มลูกค้าประเทศจีน และบริษัทยังมีแผนเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระจายสินค้าในเมืองต่าง ๆ เพิ่มขึ้น มั่นใจว่ายอดขายตลาดต่างประเทศจะเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้” นายพิศาลกล่าว

ADVERTISMENT