
อาร์เอส กรุ๊ป ผนึกบริษัทในเครือ “RS LiveWell-RS Multimedia & Entertainment-RS Music” เดินหน้าขยายตลาด “ฟู้ดสแน็ก-ความงาม” ภายใต้แนวคิด Content to Commerce กับ 3 แบรนด์ใหม่ “น้ำพริกปากท้อง-bbooty-TellmeDarling” เพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่ เชื่อ 3 แบรนด์ใหม่จะช่วยไดรฟ์รายได้คอมเมิร์ซแตะ 1,000 ล้านบาท
นางสาววรัญญา ราชพลสิทธิ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมาที่ทาง “อาร์เอส กรุ๊ป” ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์ Unlock Value หรือปลดล็อกศักยภาพทุกธุรกิจผ่านโครงสร้างใหม่ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ RS Music, RS Multimedia & Entertainment, RS LiveWell และ RS Pet All
โดยกลุ่มธุรกิจ RS LiveWell ที่ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของอาร์เอส ในด้าน Product Company ที่มีกลุ่มสินค้า House Brands ครอบคลุมหลาย Category และหลายกลุ่มเป้าหมาย เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ Unlock Value ขององค์กร
ผนึกธุรกิจในเครือปั้น 3 แบรนด์
ล่าสุด จึงจับมือกับ RS Multimedia & Entertainment และ RS Music ดึงความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจทั้งการปั้นศิลปิน การสร้างคอนเทนต์ และ Music Marketing มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งกลุ่มฟู้ดสแน็ก และคัลเลอร์ คอสเมติก อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิดขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Content to Commerce หรือ C2C ที่ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
กลยุทธ์ Strategic Partnership การร่วมมือทำ Cobrand ระหว่างธุรกิจในเครือ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และรุกเข้าสู่ประเภทสินค้าใหม่ ๆ ซึ่งที่ผ่านมา RS LiveWell ได้มีการปั้นแบรนด์ใหม่ “ปากท้อง” ที่ร่วมมือกับรายการ “ปากท้องต้องรู้ ดูแล้วร้วยรวย” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 8 พร้อมดึง เอ ไชยา-แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย มาร่วมเป็นเจ้าของและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน
โดยจะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์แรกเป็น “น้ำพริกปากท้อง” 3 รสชาติในราคากระปุกละ 299 บาท เน้นเจาะกลุ่มตลาดบน
“การรุกตลาดน้ำซอสปรุงรสและน้ำพริกในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2566 มีมูลค่ามากถึง 5.7 หมื่นล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีถึง 8% ประกอบกับสินค้าในกลุ่มน้ำพริกสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ยังไม่มีผู้เล่นรายใหญ่ หรือเจ้าของตลาดที่ชัดเจน เราจึงมองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ”
ขณะที่กลยุทธ์ Star Commerce จะใช้แนวทางผนึกศิลปินและดาราในสังกัด มาร่วมสร้างแบรนด์ โดยผลิตภัณฑ์แรกดึงใบเตย มาร่วมสร้างแบรนด์ความงาม “bbooty” เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของประเทศไทยมูลค่ากว่า 2.08 หมื่นล้านบาท มีการเติบโต 33% ในปีก่อน และยังมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ประกอบกับสินค้ากลุ่ม Facial Makeup และ Lip Products เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโต
โดยสินค้าในกลุ่มนี้จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงานอายุระหว่าง 20-35 ปี มีความชอบและสนใจในการแต่งหน้า รักสวยรักงาม สนใจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ เป็นต้น
ส่วนกลยุทธ์ Brand Collaborations จะมุ่งเน้นมองหาพาร์ตเนอร์ที่มีศักยภาพตลอดเวลา เพื่อต่อยอดธุรกิจให้กับแบรนด์ โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับแบรนด์ Tellme ที่มีผลิตแป้งพับทาหน้า และอยู่ในตลาดมายาวนาน มาสร้างโคแบรนด์ใหม่ “เท็ลมี ดาร์ลิง” (TellmeDarling by Darling&Co.)
และจะร่วมทำเพลงในรูปแบบ Music Marketing ผ่านการใช้ศักยภาพของ RS Music ที่จะดึงศิลปินเบิ้ล ปทุมราช และลำไย ไหทองคำ มาร่วมสร้างเพลงใหม่ เพื่อส่งสารให้เชื่อมโยงไปยังอารมณ์ความรู้สึกของผู้ฟัง พร้อม ๆ กับการสร้างความคุ้นเคยจนกระทั่งชื่อแบรนด์หรือชื่อสินค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ฟัง
พร้อมมุ่งเน้นจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ รวมถึงวางแผนขยายตลาดไปสู่ภูมิภาคอาเซียน นำร่องในประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีพาร์ตเนอร์เป็นตัวแทนกระจายสินค้า โดยตลาดฟิลิปปินส์มีศักยภาพสูงจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย มีฐานประชากรกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
“ซึ่งการร่วมมือกันของแบรนด์ Daring&Co. และ TellMe ภายใต้แบรนด์ TellmeDarling by Daring&Co. ในครั้งนี้ มองว่าจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าของทั้ง 2 แบรนด์ รวมถึงการ Refresh ภาพแบรนด์และสินค้าของ TellMe ให้ดูเป็นวัยรุ่นและทันสมัยมากยิ่งขึ้น”
ธุรกิจคอมเมิร์ซแตะ 1 พันล้าน
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอสมิวสิค จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการขยายฐานลูกค้าผลิตภัณฑ์ 3 แบรนด์ใหม่ ได้วางแนวทางรุกกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นกลุ่ม Gen Z และมิลเลนเนียล ผ่านการขยายช่องทางการขายในประเทศ โดยเฉพาะ TikTok โมเดิร์นเทรด และบิวตี้สโตร์
รวมถึงจะมีการทำการตลาดแบบ 360 องศา ครบทุกช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และออนแอร์ อีกทั้งยังมีแผนขยายช่องทางการขายไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากทิศทางการดำเนินงานภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก และการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจคอมเมิร์ซในปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากแบรนด์สินค้าอื่น ๆ ของ RS LiveWell ประมาณ 750 ล้านบาท และรายได้จาก 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ ปากท้อง, bbooty และ TellmeDarling by Daring&Co. ประมาณ 250 ล้านบาท