ไทยเบฟ ย้ำ โลกเดือดต้องร่วมมือทุกภาคส่วน

ฐาปน สิริวัฒนภักดี
ฐาปน สิริวัฒนภักดี

ไทยเบฟ ย้ำปัญหาโลกเดือดต้องร่วมมือทุกภาคส่วน แนะธุรกิจขนาดเล็ก-กลางชิงโอกาสเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านเร่งปรับตัว ส่วนรายใหญ่ใช้ AI หนุนปรับธรรมาภิบาล พร้อมเดินหน้าจัด Sustainability Expo ปลายกันยายนนี้ หวังปลุกความยั่งยืนทุกมิติ

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา Prachachat ESG Forum 2024 Time for Action : พลิกวิกฤต โลกเดือด ว่า สถานการณ์โลกเดือนทุกวันนี้ไม่จำกัดอยู่เพียงเรื่องสภาพอากาศ แต่ยังรวมไปถึงการจับจ่ายใช้สอยและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนซึ่งต่างได้รับผลกระทบไปด้วย

ต้องร่วมมือทุกภาคส่วน

โดยมนุษย์ทุกคนกว่า 8 พันล้านคน และภาคธุรกิจนับเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเนื่องจากต่างเป็นผู้ใช้ทรัพยากรของโลกทั้งเพื่อดำนเนินชีวิตและผลิตสินค้า-บริการ จึงต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าการจะแก้ไขปัญหาโลกเดือดนั้นเป็นไปไม่ได้เลยหากทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือกัน

ตัวอย่างเช่น การให้โลกเข้าสู่ Net Zero นั้นจะไม่มีทางสำเร็จหากทุกประเทศไม่ Net Zero ด้วย ซึ่งการที่แต่ละประเทศจะ Net Zero ได้ต้องพึ่งความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม ภาคสังคม รวมไปถึงประชาชนแต่ละคนต้องช่วยกัน Net Zero ด้วย

โอกาสธุรกิจเล็ก-กลางชิงปรับตัวก่อน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันที่เป็นยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี เช่น ความแพร่หลายของ AI นั้นเชื่อว่า เป็นโอกาสที่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง จะสามารถปรับตัวด้าน ESG ได้รวดเร็วกว่า ธุรกิจขนาดใหญ่

เนื่องจากสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้อัพเกรดสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ธุรกิจใหญ่อาจต้องรอให้เทคโนโลยีเดิมที่ลงทุนไปแล้วคุ้มค่าเสียก่อน

ADVERTISMENT

แนะใช้ AI หนุนการปรับ ธรรมาภิบาล

นายฐาปนยังแนะว่า สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่นั้น AI อาจช่วยลดความท้าทายในการปรับตัวด้านธรรมาภิบาล ที่ถือเป็นความท้าทายใหญ่ได้ เนื่องจาก AI อาจช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความเร็วในการสื่อสารทำความเข้าใจและรับฟีดแบ็กระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ภายในองค์กรได้ดีกว่าการใช้มนุษย์

เพราะ AI สามารถเก็บและแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้โดยไม่มีปัจจัยด้านอารมณ์ความรู้สึก หรือความกังวลในเรื่องต่าง ๆ แบบมนุษย์ ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ADVERTISMENT

ลุยจัด Sustainability Expo ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ที่ผ่านมาภาคเอกชนไทยสร้างความร่วมมือหลากหลายกลุ่ม หนึ่งในนั้นคือ ความร่วมมือระหว่างไทยเบฟกับซัพพลายเออร์ตั้งแต่รายใหญ่ถึงรายย่อยแบบข้ามอุตสาหกรรม ในชื่อ TSCN หรือ Thailand Supply Chain Network ตั้งแต่ปลายปี 2019

ปัจจุบันมีซัพพลายเออร์เข้าร่วมกว่า 2,000 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ทั้งเทรนด์ของวงการ การปรับตัว และการสร้างโอกาสเติบโต รวมถึงเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อม เครือข่าย สังคม เนื่องจากเชื่อว่า ปัจจุบันการปรับตัวเพื่อความยั่งยืนไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว

นอกจากนี้บริษัทยังมีแพลตฟอร์ม SX หรือ Sustainability Expo ที่มีการพูดคุยเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อม เครือข่าย สังคม ซึ่งปี 2567 นี้จะจัดในวันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ฐาปน สิริวัฒนภักดี
ฐาปน สิริวัฒนภักดี