‘เสถียร’ เจ้าพ่อคาราบาว เล่าประวัติศาสตร์ ‘เบียร์ลาเกอร์’ และการผูกขาด

เสถียร เสถียรธรรมะ
เสถียร เสถียรธรรมะ

เจ้าพ่อคาราบาวเล่าเรื่องเบียร์ลาเกอร์ที่ได้รับความนิยมในไทยและปัญหาการผูกขาดที่ทำให้ผู้บริโภคเสียโอกาสสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ 

นายเสถียร เสถียรธรรมะ ผู้ก่อตั้งเบียร์คาราบาว-เบียร์ตะวันแดง บอกเล่าและอธิบายเรื่องเบียร์ลาเกอร์ผ่านช่องยูทูป Carabao Tawandang Beverage โดยระบุว่า เมื่อ 70-80 ปีก่อนเริ่มมีการผลิตเบียร์ในไทย โดยได้รับพื้นฐานจากประเทศเยอรมัน

เหตุผลที่เบียร์ประเภท “ลาเกอร์” ได้รับความนิยม เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ทำให้ผู้บริโภคต้องการความสดชื่น อีกประเด็นคือไทยมีผู้ผลิตเพียง 3-4 ราย และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่เพียง 2 ราย ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

“การผูกขาดทำให้ประชาชนคุ้นลิ้นชินปากกับเบียร์ชนิดเดียว”

นายเสถียร เล่าต่อว่าหากมองไปที่ประเทศเยอรมัน เราจะพบว่าที่นั่นเป็นตลาดเสรี ผู้ผลิตทุกคนต้องพยายามสร้างความแตกต่าง หาเอกลักษณ์เพื่อต่อสู้และแข่งขันในสนาม ปัจจุบันมีบริษัทที่ผลิตเบียร์มากกว่า 1,500 บริษัท และผลิตออกมามากกว่า 5,000 ฉลาก

คนเยอรมันคุยกันว่า หากดื่มเบียร์ไม่ซ้ำฉลากทุกวัน “ดื่มติดต่อกัน 15 ปี ยังไม่ครบเลย” นี่คือความแตกต่างหลากหลาย เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค

ADVERTISMENT

สำหรับที่มาของลาเกอร์ ผู้ก่อตั้งเบียร์คาราบาว-เบียร์ตะวันแดง ระบุว่า ลาเกอร์ได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนมาถึงศตวรรษที่ 20 แม้จะมีการผลิตคินค้นมาหลายร้อยปีก่อนหน้า แต่เนื่องจากในสมัยนั้นการควบคุมการผลิตถือเป็นเรื่องยุ่งยากและมีข้อจำกัด

ตัวอย่างเช่น การขุดถ้ำเพื่อให้เป็นฐานการผลิต แล้วใช้น้ำแข็งตามลำธารลำเลียงเข้าไปไว้ในถ้ำเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการผลิต ทำให้ “ลาเกอร์” ยังไม่แพร่หลายมาก จนกระทั่งปี 1870 มีการคิดค้นเครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่สำเร็จทำให้โรงเบียร์สามารถควบคุมคุณภาพของเบียร์ลาเกอร์ได้ และเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วย 2 คุณสมบัติหลักคือ

  • ผลิตง่าย
  • บอดี้เบาบางและดีกรีที่ไม่สูงเกินไป