เซเว่นแอนด์ไอ สปีดหนีดีลซื้อกิจการ ลุย M&A ดับเบิลยอดขาย

คอลัมน์ : Market Move

มหากาพย์ความพยายามซื้อกิจการ เซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง ยักษ์ค้าปลีกญี่ปุ่น ของ อาลีมองตาซิยง คูช-ตา ยักษ์ค้าปลีกแคนาดา ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ เมื่อ เซเว่นแอนด์ไอ ไม่เพียงปฏิเสธข้อเสนอ แต่ยังเผยแผนยุทธศาสตร์สำหรับสกัดการถูกซื้อกิจการออกมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า เซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง บริษัทแม่ของเซเว่นอีเลฟเว่น กางแผนเพิ่มมูลค่าบริษัทให้สูงขึ้น ทั้งด้วยวิธีการแบบออร์แกนิกอย่างการสนับสนุนผู้ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศต่าง ๆ ให้เติบโต และการเดินสายซื้อ-ควบรวมกิจการ หรือ M&A ธุรกิจสะดวกซื้อรายอื่น ๆ ในตลาดสหรัฐอมเริกา เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอของบริษัท

“โจเซฟ เดปินโต” ผู้บริหารของหน่วยธุรกิจในสหรัฐ ของเซเว่นอีเลฟเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทจะเดินหน้าด้านซื้อ-ควบรวมกิจการร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาเข้ามเสริมพอร์ตโฟลิโอของบริษัท และขยายส่วนแบ่งทางการตลาดให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก หลังเมื่อปี 2023 เซเว่นอีเลฟเว่นครองส่วนแบ่งตลาดร้านสะดวกซื้อในสหรัฐ ประมาณ 8.5% ซึ่งสูงที่สุดในตลาดแล้ว

ขณะเดียวกัน เซเว่นแอนด์ไอ ประกาศแผนเดินหน้าสนับสนุนผู้ถือใบอนุญาตดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในแต่ละประเทศ ด้วยการมุ่งลงทุนเชิงกลยุทธ์ และจัดหาเงินทุนสนับสนุนให้

โดย “เคน วาคาบายาชิ” ประธานและซีอีโอของเซเว่นอีเลฟเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายถึงที่มาและผลลัพธ์เบื้องต้นของแนวทางการสนับสนุนผู้ได้รับใบอนุญาตนี้ว่า ที่ผ่านมาผู้รับใบอนุญาตในหลายประเทศเคยส่งคำขอสร้างความร่วมมือและรับการสนับสนุนโดยตรงจากบริษัทอยู่แล้ว สะท้อนถึงดีมานด์สร้างความร่วมมือ

นอกจากนี้ ในประเทศที่เริ่มสร้างความร่วมมือไปแล้วยังเริ่มเห็นผลลัพธ์ทั้งด้านยอดขายต่อวัน และสปีดการขยายสาขาอย่างในออสเตรเลีย และเวียดนาม

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในหลายประเทศ อาทิ ไทย, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์ และอื่น ๆ

ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเร่งสปีดการเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่ง “ริวอิจิ อิซะกะ” ประธานของเซเว่นแอนด์ไอกล่าวว่า กลุ่มบริษัทมีเป้าขยายสาขาให้ครบ 100,000 ร้านค้า ใน 30 ประเทศ ภายในปี 2030 จากที่ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีสาขา 84,652 สาขา ใน 20 ประเทศ

เพื่อให้บรรลุเป้ายอดขายในปีงบประมาณ 2031 เป็น 30 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 6.62 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่ารายได้ของเซเว่นแอนด์ไอโฮลดิ้ง เมื่อปี 2023 ถึง 2 เท่า

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป้ารายได้และแผนการซื้อ-ควบรวมกิจการนี้เป็นความพยายามของเซเว่นแอนด์ไอที่จะป้องกันการซื้อกิจการจากอาลีมองตาซิยง คูช-ตา ตัวอย่าง เช่น “นัตสึโกะ ดักลาส” นักวิเคราะห์จาก Macquarie Capital ที่ให้ความเห็นว่า สถานการณ์นี้ราวกับเซเว่นแอนด์ไอกำลังบอกว่า เราคือเจ้าของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นที่ดีที่สุด