CH ปั้นแบรนด์ Bangkok Tasty เจาะตลาดขนมไทย

bangkok tasty
ศักดา ศรีแสงนาม

เจริญอุตสาหกรรม หรือ CH ผู้ผลิตผลไม้อบแห้งกว่า 100 ปี เดินหน้าลุยตลาดขนมไทย ภายใต้แบรนด์ “Bangkok Tasty” ชูจุดแข็ง “Soft Power Snack” ผลักดันสินค้าไทยเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพและนักท่องเที่ยว พร้อมรุกขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย โดยคาดจะสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกค้าไทย-ต่างชาติให้เติบโตเท่าเทียมกันได้ภายใน 3-5 ปี

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจผลไม้อบแห้งมานานกว่า 100 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลไม้อบแห้ง จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น ในการผลิตสินค้าแบบ OEM

ล่าสุดในปีที่ผ่านมา บริษัทจึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกระแสความนิยมในวัฒนธรรมไทย หรือ Soft Power ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก จึงได้เปิดตัวแบรนด์ขนมไทย Bangkok Tasty เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ

โดยแบรนด์ “Bangkok Tasty” จะมีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะทั้งมะม่วงอบแห้ง ฝรั่งอบแห้ง เลมอนอบแห้ง มะพร้าวอบแห้ง รวมถึงขนมไทยอบกรอบหลากหลายรสชาติ และยังมีบล็อกเซตขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ ได้แก่ ข้าวเหนียวมะม่วงอบกรอบ ข้าวเหนียวทุเรียนอบกรอบ กล้วยบวชชีอบกรอบ ข้าวเหนียวถั่วดำอบกรอบ

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดขนมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “Bangkok Tasty” อย่างต่อเนื่อง โดยจะให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบ ควบคู่กับการใช้นวัตกรรมการอบแห้งแบบพิเศษ พร้อมนำเสนอขนมหวานไทยในรูปแบบที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคปัจจุบัน ผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

โดยในช่วงปลายปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ “เซตสตรีตฟู้ด” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถเข็นขายผลไม้ของไทย เช่น ฝรั่งพริกเกลือ มะม่วงน้ำปลาหวาน ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในร้านโชห่วยและจุดท่องเที่ยวก่อน จากนั้นจะขยายสู่โมเดิร์นเทรดในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

ADVERTISMENT

ขณะที่กลยุทธ์การทำการตลาดในปี 2568 บริษัทมีแผนในการเพิ่มงบประมาณทางการตลาดเป็นเท่าตัวจากปี 2567 โดยจะมุ่งเน้นการขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์

โดยเฉพาะช่องทางโมเดิร์นเทรด และร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เยาวราช โดยจะเริ่มจากการเจาะตลาดในเมือง ก่อนขยายสู่ตลาดต่างจังหวัดในอนาคต รวมถึงยังเตรียมขยายไปยังร้านสะดวกซื้อและแพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น Shopee, Facebook, TikTok Shop, LINE Shopping เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น

ADVERTISMENT

จากปัจจุบันแบรนด์ “Bangkok Tasty” จะมีวางจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ CENTRAL VILLAGE, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 8 สาขา, 7-Eleven 50 สาขา, เทสโก้ โลตัส 34 สาขา, Gourmet Market 4 สาขาซึ่งจุดจำหน่ายดังกล่าวเป็นทำเลที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย เช่น การจัดบูทกิจกรรมชวนชิม และการใช้สื่อโฆษณา ณ จุดขาย ควบคู่ไปกับการใช้ “น้องสบาย” มาสคอตในการสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจ

ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นมีแผนที่จะสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียยอดนิยม อย่าง Xiao Hong Shu มากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายตลาดในต่างประเทศ

โดยในอนาคตบริษัทมีแผนขยายตลาดต่างประเทศในกลุ่มเอเชียมากขึ้น เนื่องจากมีดีมานด์สูง และสอดคล้องกับแคแร็กเตอร์ของแบรนด์

จากปัจจุบัน “Bangkok Tasty” มีจำหน่ายในยุโรปและเอเชียบางประเทศไปบ้างแล้ว ขณะเดียวกัน ยังพิจารณาขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วจากการรับจ้าง OEM

ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว คาดว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า “Bangkok Tasty” จะมีสัดส่วนลูกค้าคนไทย 50% และต่างชาติ 50% จากปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าคนไทยมีอยู่เพียงแค่ 30% และคาดว่าจะทำให้กลุ่มคนทุกกลุ่มรู้จักวัฒนธรรมไทยมากขึ้นผ่านสินค้าแบรนด์ “Bangkok Tasty” และ มาสคอตน้องสบาย

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ และพลังงานจะปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทได้มีการบริหารจัดการ และล็อกราคาวัตถุดิบล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุน และรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้า

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 แบรนด์ “Bangkok Tasty” สามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 577.21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยในปีนี้ก็คาดว่า “Bangkok Tasty” จะมียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง