ตัน อิชิตัน แจงปิด อิชิตัน พาวเวอร์ ไม่เกี่ยวแบรนด์ชูกำลัง “ตัน พาวเวอร์”

อิชิตัน อิชิตัน พาวเวอร์ ตัน พาวเวอร์

ตัน อิชิตัน ออกโรงแจง ปิดบริษัท “อิชิตัน พาวเวอร์” เพราะไม่ได้ดำเนินธุรกิจแล้ว ไม่เกี่ยวกับแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง “ตัน พาวเวอร์” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ระบุแบรนด์ดังกล่าวอยู่ภายใต้บริษัทหลัก “อิชิตัน กรุ๊ป”

จากกรณีบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ได้มีมติอนุมัติให้เลิกกิจการ บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

ล่าสุด นายตัน ภาสกรนที ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ระบุว่า “ตามที่มีข่าว ‘ICHI แจ้งเลิกกิจการ บ.อิชิตัน พาวเวอร์ ยันไม่กระทบฐานะทางการเงิน’ บ.อิชิตัน พาวเวอร์ เป็นบริษัทย่อยของอิชิตัน ที่เคยตั้งในปี พ.ศ. 2560 ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินธุรกิจมา 7 ปี จึงหยุดธุรกิจที่ไม่ได้ใช้งานไป

บ.อิชิตัน พาวเวอร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ ‘ตัน พาวเวอร์’ แบรนด์เอเนอร์จี้ดริงก์ที่กำลังทำตลาดอย่างคึกคัก ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป ตัน พาวเวอร์ยังอยู่แน่นอนครับ !”

สำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง “ตัน พาวเวอร์” เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2567 โดยมีเหตุผลการเปิดตัว คือ เนื่องจากแนวโน้มไตรมาส 1/2567 มีทิศทางที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง และเอลนีโญส่งผลต่อสภาพอากาศร้อนเร็วเกินคาด มาเป็นแรงหนุนตลาดเครื่องดื่ม

Advertisment

ขณะเดียวกัน บริษัทวางแนวทางขยายไลน์สินค้ากลุ่ม Nontea เพิ่ม หลังสินค้ากลุ่มนี้ทั้ง “ตันซันซู” เครื่องดื่มน้ำอัดลมสไตล์เกาหลี และ “น้ำด่าง อิชิตัน” ต่างสามารถทำรายได้มาเสริมแกร่งภาพรวมผลการดำเนินงานในปีที่แล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจเปิดตัวตัน พาวเวอร์ เพื่อขยายพอร์ตให้มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ครอบคลุมตามกลยุทธ์ 3N (New Product, New Market, New Business)

Advertisment

กลยุทธ์การขาย “ตัน พาวเวอร์” คือ มาในรูปแบบขวดแก้ว ตั้งราคา 10 บาท และมีคอนเซ็ปต์เป็น “ชีวิตไม่มีทางตัน” ที่ถอด DNA นักคิดสู้ชีวิต ทุกความสำเร็จ ต้องการทุ่มเท และเป็นกำลังใจให้กลุ่มคนสู้ชีวิต ส่วนรสชาติเน้นสไตล์เข้มข้น สดชื่น รวมถึงผสมวิตามินบีรวม

พร้อมใช้กลยุทธ์จัดจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ที่มีการขยายตัวสูง โดยมีดีเคเอสเอช ประเทศไทย ดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่กระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ โดยวางเป้ายอดขายไว้ที่ 300 ล้านบาท ในปี 2567 นี้