MOSHI สปีดโค้งท้าย ปักธงเพิ่ม 6 สาขา พร้อมอัดแคมเปญใหญ่ปลุกยอด

โมชิ โมชิ ลั่นสปีดรายได้โค้งท้ายปี’67 นี้ จัดเต็มสินค้า กิจกรรม สาขาใหม่ ชิงเม็ดเงินช่วงไฮซีซั่นท้ายปี ดันรายได้ปี’67 โต 20% หลังผลงาน 9 เดือน ทำนิวไฮ

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ โมชิ โมชิ กล่าวว่า ในไตรมาส 4/67 ที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเตรียมพร้อมสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 4 คอลเล็กชั่นลิขสิทธิ์ พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดและการสื่อสารตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแคมเปญส่งท้ายปีเพื่อกระตุ้นยอดขายและขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยเตรียมจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น รวมถึงเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น Lotus จ.ยะลา, Big-C จ.ปัตตานี, Robinson จ.ราชบุรี เป็นต้น รวมทั้งสาขา Standalone ในกรุงเทพฯ อีก 1 แห่ง

ทั้งนี้ เพื่อหนุนให้รายได้ปี 2567 เติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

รายได้ 9 เดือนนิวไฮ

ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) บริษัทมีรายได้รวม 2,076.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,749.75 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 314.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 254.24 ล้านบาท

นับเป็นการทำผลงานทั้งรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) โดยสัดส่วนรายได้จากการขายในงวด 9 เดือนแรก ธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 82.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 16.0% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น และรายได้จากช่องทาง Online และช่องทางอื่น ๆ อยู่ที่ 1.9% เพิ่มขึ้นกว่า 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตหลักมาจากความสำเร็จในการขายสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะคอลเล็กชั่น K-pop ที่ได้รับความนิยมสูง

Advertisment

งัด 2 กลยุทธ์ แก้โจทย์สินค้าขาด

ขณะเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดสต๊อกในอนาคต บริษัทจึงนำ 2 กลยุทธ์มาใช้ ประกอบด้วย

  1. เพิ่มความใกล้ชิดในการทำงานร่วมกับผู้ผลิต เพื่อให้สามารถคาดการณ์และจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  2. ศึกษาและแสวงหาช่องทางเพิ่มเติมในการหาผู้ผลิตรายใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตสินค้า

สินค้าใหม่ 3,000 รายการหนุนไตรมาส 3

ส่วนไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 735.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 585.09 ล้านบาท นับว่าเป็นผลการดำเนินงานสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น ๆ ของปี แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ

Advertisment

โดยเป็นผลจากการเพิ่มสินค้าใหม่กว่า 3,000 รายการ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าลิขสิทธิ์ ความนิยมของผลิตภัณฑ์กล่องสุ่ม และการขยายสาขาใหม่อีก 8 สาขา

นอกจากนี้ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากการร่วมทุน (JV) เพื่อจัด Exhibition ของ Hello Kitty และ Sanrio Characters คิดเป็นรายได้ไม่เกิน 1% ของยอดรายได้รวม ด้านกำไรสุทธิทำได้ 108.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 83.30 ล้านบาท

แม้จะมีการบันทึกขาดทุนจากการร่วมทุน JV ซึ่งเป็นรายการพิเศษในไตรมาส แต่การร่วมทุนครั้งนี้ เป็นโครงการระยะสั้นที่มุ่งเน้นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ รวมถึงบริษัทได้ขยายระยะเวลาการจัดงานให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลในปลายปี เพื่อช่วยดึงยอดขายทั้ง Ticketing, Merchandising และ Profit Sharing เป็นต้น

สำหรับยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/2567 มีอัตราเติบโตที่ดีถึง 5.7% โดยบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านให้สวยงามมากขึ้นและลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีในการช้อปมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มสินค้ากลุ่ม High value เช่น น้ำหอม ก้านหอม และกล่อมสุ่ม Art toy ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า