ซีพีออลล์ กำไร 9 เดือน พุ่ง 46.3% เป็น 18,458 ล้าน หลังสะดวกซื้อโตแรง

ซีพีออลล์

CPALL เผย 9 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจสะดวกซื้อ ค้าปลีกและศูนย์การค้าโตแรง หนุนกำไรเพิ่มขึ้น 46.3% สุทธิ 18,167 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 และ 9 เดือนแรกของปี 2567 ระบุว่า ช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้ 241,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 6.6

เป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ศูนย์การค้า และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังมีการขยายตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายไตรมาส รวมถึงการท่องเที่ยวในไตรมาสนี้ที่ยังคงปรับตัวดีขึ้นหลังจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กำไรสุทธิช่วงไตรมาส 3 อยู่ที่ 5,608 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิหลังปรับปรุงรายการ (ไม่รวมกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการควบบริษัทของ บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า) เท่ากับ 6,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 44.1

สาเหตุหลักมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าเป็นหลัก ประกอบกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

กำไร 9 เดือนพุ่ง 46.3%

ส่วนช่วง 9 เดือน มีรายได้รวม 730,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรายได้ทุกกลุ่มธุรกิจต่างเติบโต

ADVERTISMENT

โดยมีกำไรสุทธิ 18,167 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิหลังปรับปรุงรายการอยู่ที่ 18,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 46.3 จากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าเป็นหลัก

ปักธงเซเว่นอีเลฟเว่นใหม่ 199 สาขา เป็น 15,053 สาขาทั่วประเทศ

ยักษ์ค้าปลีก เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 199 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 15,053 สาขา แบ่งเป็น

ADVERTISMENT

(1) ร้านสาขาบริษัท 7,671 สาขา (ประมาณ ร้อยละ 51) ร้านเปิดใหม่สุทธิ 125 สาขา

(2) ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 7,382 สาขา (ประมาณ ร้อยละ 49) ร้านเปิดใหม่สุทธิ 74 สาขา

ในไตรมาส 3 นี้ร้านสาขาส่วนใหญ่ยังเป็นร้านที่ตั้งเป็นเอกเทศ ซึ่งประมาณร้อยละ 86 ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.

เซเว่นอีเลฟเว่น 3 เดือนยอดขายทะลุแสนล้าน

ในไตรมาส 3 ปี 2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 107,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 81,781 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 3.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 84 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 964 คน

ทั้งนี้ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

และมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 4,467 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

อาหาร-เครื่องดื่ม แหล่งรายได้หลัก

โดยในไตรมาส 3 ปี 2567 สัดส่วนของรายได้จากการขาย ร้อยละ 76.3 มาจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และร้อยละ 23.7 มาจากสินค้าอุปโภค ซึ่งสัดส่วนรายได้ในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามกลยุทธ์มุ่งเน้นเป็นจุดหมายปลายทางที่ 1 ในใจลูกค้าเมื่อนึกถึงอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกที่และทุกเวลา

ขณะที่รายได้จากการขายสินค้า ผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Delivery และ All Online มีสัดส่วนประมาณรอยละ 11 ของรายได้จากการขายสินค้ารวม

นอกจากนี้การใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของสาขา อาทิ การให้เช่าพื้นที่ บริการ และอื่นๆ สร้างรายได้อีก 6,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 849 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับธุรกิจร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 98 สาขาและมีสาขาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 9 สาขา

วางเป้าเติบโตตาม GDP

ทั้งนี้ ซีพีออลล์ วางเป้าการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม รวมถึงยอดขายจากช่องทางอื่นๆ อาทิ 7Delivery และ All Online อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP)