The North Face เดินหน้าขยายอาณาจักร Outdoor

“The North Face” เดินหน้าขยายตลาด Outdoor รับเทรนด์ท่องเที่ยวบูม เปิดสาขาใหม่ “เซ็นทรัลเวิลด์” รุกเจาะกลุ่ม Young Gen ด้วยสินค้าไลฟ์สไตล์-คอลเล็กชั่นพิเศษ พร้อมกางแผนปี 2568 เตรียมขยายสาขาเดิม-เปิดสาขาใหม่ เสริมแกร่งช่องทางจำหน่าย มั่นใจรักษาเบอร์หนึ่งตลาดเสื้อกันหนาวระดับ Luxury ด้วยส่วนแบ่ง 50%

นายอรรถพล นิติวรคุณาพันธ์ ผู้จัดการแบรนด์ The North Face และจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์ Outdoor เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาด Outdoor และการท่องเที่ยวของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการออกท่องเที่ยวใช้ชีวิต และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันมีแบรนด์ต่าง ๆ ตบเท้าเข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นด้วยเช่นกัน ช่วยให้ธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับการท่องเที่ยวจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้นด้วย บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ในปี 2568 ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าวัยทำงานอายุระหว่าง 35-45 ปี ซึ่งมีกำลังซื้อสูง และมี Brand Loyalty โดยมีการใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยประมาณ 4,000-8,000 บาท รวมถึงกลุ่ม Young Generation อายุ 24-34 ปี มีกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของแบรนด์ในอนาคต

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ การขยายช่องทางจำหน่ายทั้งปักธงสาขาใหม่ และขยายพื้นที่สาขาเดิม โดยในปี 2568 มีแผนขยายพื้นที่ร้านค้าเดิมให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับสินค้าที่จะหลากหลายขึ้น เช่น สาขาในจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่และภูเก็ต เป็นต้น รวมถึงมีแผนเปิดตัวสาขาใหม่อีก 1 แห่งในปี 2568 ในโมเดลขนาดใหญ่ มีไลน์สินค้าครบและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

พร้อมพัฒนาสินค้าให้หลากหลายและเน้นนวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่ม เช่น เสื้อแจ็กเกตน้ำหนักเบา และมีฟังก์ชั่นหลากหลาย เช่นเดียวกับการเพิ่มน้ำหนักสินค้าอื่น ๆ นอกจากเสื้อผ้าฤดูหนาว โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ที่เติบโตต่อเนื่อง และได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ

ส่วนในด้านกลยุทธ์การตลาดจะโฟกัสกับอีเวนต์และแคมเปญ เช่น งานวิ่งเทรล The North Face 100 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์จริง โดยในปี 2568 จะจัดงานครั้งที่ 11 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น Global Climbing Day, Camping Festival และ Snow Festival ซึ่งล้วนเชื่อมโยงกับแบรนด์และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า

ประเดิมด้วยการเปิดตัว Flagship Store แห่งใหม่ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน มีไฮไลต์เป็นไลน์อัพสินค้าแบบครบ ทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับกิจกรรม Outdoor อาทิ การปีนเขา การเดินป่า การตั้งแคมป์ และการวิ่งเทรล รวมไปถึงสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์และคอลเล็กชั่นพิเศษ จากความร่วมมือกับนักออกแบบชื่อดัง อาทิ Comme des Garcons, Undercover ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า Young Generation

การขยายสาขา Flagship Store นี้ ทำให้ปัจจุบัน The North Face มีเครือข่ายร้านค้าในไทยรวม 63 สาขา ประกอบด้วย Standalone Shop 13 สาขา และ Shop in Shop ในห้างสรรพสินค้ากว่า 50 สาขาทั้งนี้เชื่อว่า กลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาดนี้ จะช่วยผลักดันให้แบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง และรักษาความเป็นผู้นำในตลาด Outdoor ของประเทศไทย รวมถึงรักษาเบอร์หนึ่งตลาดเสื้อกันหนาวระดับ Luxury ด้วยส่วนแบ่ง 50%