“สตีเบล” เกาะกระแสรักษ์โลก ผนึก “โฮมโปร’” ปลุกยอดสิ้นปี

stebell

“สตีเบล เอลทรอน” และ “โฮมโปร” ผนึกกำลังปลุกยอดขายโค้งท้าย ชูจุดเด่นสินค้ารักษ์โลกเจาะกลุ่มเจนวาย-ซี หลังวิจัยชี้คนไทย 74% ให้น้ำหนักความยั่งยืนมากขึ้น ลุยส่งเครื่องทำน้ำอุ่นโมเดล ECO จากพลาสติกรีไซเคิลชิงเม็ดเงินหน้าหนาว พร้อมโหมการตลาดย้ำโพซิชั่นแบรนด์อายุ 100 ปี สร้างเชื่อมั่น ก่อนเดินเครื่องโรงงานใหม่ปี’68 ส่งฮีตปั๊มเจาะตลาดออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ หนุนรายได้ส่งออก

นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเชีย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่น น้ำร้อนและเครื่องกรองน้ำแบรนด์ “สตีเบล เอลทรอน” กล่าวว่า ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในไทยปี 2567 นี้ช่วงโค้งท้ายเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนจากครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน ยอดเซลเอาต์หรือยอดขายของร้านค้าดีลเลอร์เริ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอากาศเริ่มเย็น

นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวจากช่วง 6 เดือนแรกที่ตลาดติดลบถึง 20% เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายหลังถูกกดดันด้วยสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ เช่นเดียวกับสภาพอากาศร้อนจัด เม็ดเงินจึงไหลไปหาสินค้าทำความเย็นแทน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านกำลังซื้อยังทำให้เกิดโอกาสจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์มากขึ้น สะท้อนจากยอดขายของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกที่สามารถเติบโตสวนทิศทางตลาด หลังโหมสร้างความเชื่อมั่นด้วยแคมเปญฉลองครบรอบ 100 ปี เช่นเดียวกับการที่ผู้บริโภคไทยหันมาสนใจสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ชี้ว่า 74% ของผู้บริโภคไทยมีแนวโน้มจะเลือกใช้สินค้าที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงตัดสินใจเร่งเครื่องการทำตลาด ทั้งด้วยสินค้ารุ่นใหม่ และการสื่อสารการตลาด เน้นย้ำความเชื่อมั่นของสินค้าและแบรนด์ เพื่อต่อยอดโมเมนตัมการเติบโตและชิงความได้เปรียบในช่วงฤดูหนาวที่เป็นจังหวะขายสำคัญของเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน โดยยังคงสัดส่วนงบฯการตลาดไว้ที่ 4% ของยอดขายเท่ากับปีที่แล้ว ก่อนจะตามด้วยการเดินเครื่องโรงงานแห่งใหม่ในช่วงต้นปีหน้า เพื่อรองรับดีมานด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ

นายโรลันด์กล่าวต่อไปว่า ช่วงโค้งท้ายนี้บริษัทจะอาศัยกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรงในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เป็นแม็กเนตหลักสำหรับชิงเม็ดเงินในตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น ด้วยการเปิดตัวเครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลกโมเดล WS ECO จำนวน 2 รุ่น คือ 3,500 วัตต์ และ 4,500 วัตต์ ราคารวมติดตั้ง 3,890 บาท และ 4,090 บาท ตามลำดับ มีจุดเด่นเป็นการใช้วัสดุพลาสติก ABS ผสมพลาสติกรีไซเคิล PCR (Post-consumer Recycled Plastic) แบบเสริมความแข็งแรงพิเศษจนมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพลาสติกผลิตใหม่ในสัดส่วน 45% และแพ็กเกจจิ้งแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผลิตจากกระดาษไม่ฟอก-เคลือบสี และไม่มีการใช้พลาสติกเลย

ADVERTISMENT

โดยวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านช่องทางของโฮมโปรเท่านั้น พร้อมกับจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขาย เช่น นำสินค้าเก่ามาแลกส่วนลด 300 บาท และหากชำระผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 5% เป็นต้น ควบคู่กับการทำการตลาดเน้นย้ำวาระครบรอบ 100 ปี ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี เพื่อสะท้อนความน่าเชื่อถือของแบรนด์และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้

สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นโมเดล WS ECO นี้ พัฒนาต่อยอดจากเครื่องทำน้ำอุ่นโมเดล WS ซึ่งเป็นโมเดลขายดี ภายใต้ความร่วมมือกับโฮมโปรที่เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลการพัฒนาสินค้า อาทิ สีสันที่ผู้บริโภคในตลาดประเทศไทยนิยม และให้การสนับสนุนด้านวัสดุพลาสติกรีไซเคิลแบบเสริมความแข็งแรง ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาสินค้าแนวรักษ์โลกเพิ่มขึ้นในอนาคต

ADVERTISMENT

“การผลิตเครื่องทำน้ำอุ่นโมเดล WS ECO จำนวน 6,000 เครื่อง ช่วยลดขยะพลาสติกได้ 2,760 กิโลกรัม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 5,796 กิโลกรัม/ปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 600 ต้น รวมถึงมีส่วนแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งาน โดยเฉพาะขยะพลาสติกประเภท WEEE ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดที่ในไทยมีปริมาณมากถึง 2,760 กิโลกรัม/ปี”

ขณะเดียวกันในปี 2568 บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมไฮเทค ซึ่งผลิตเครื่องฮีตปั๊มทั้งส่งออกไปยังตลาดออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจำหน่ายในไทย รองรับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม-รีสอร์ต

ทั้งนี้ เชื่อว่าเครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก โมเดล WS ECO ทั้ง 2 รุ่น และการโหมทำตลาดสื่อสารเน้นความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงรายได้จากการส่งออก จะช่วยให้รายได้รวมของบริษัททรงตัวใกล้เคียงกับปี 2566 แม้ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นของไทยจะหดตัวก็ตาม