“ดองกี้-บิ๊ก คาเมร่า” ญี่ปุ่น เปิดนิวโมเดลโฟกัสนักท่องเที่ยว

Don Quijote “ดองกี้-บิ๊ก คาเมร่า” ญี่ปุ่น เปิดนิวโมเดลโฟกัสนักท่องเที่ยว
คอลัมน์​ : Market Move

ในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ประสบการณ์การช็อปปิ้งในญี่ปุ่นของหลายคนอาจจะเปลี่ยนแปลงไป การตระเวนเข้า-ออก ร้านดองกี้ (Don Quijote) หรือ บิ๊ก คาเมร่า (Bic Camera) หลายสาขาเพื่อหาซื้อขนม ยา เครื่องสำอาง กล้องถ่ายรูป หูฟัง เครื่องเกม ฯลฯ ตามใบสั่งของเพื่อนฝูงและญาติมิตรจนขาขวิดอาจหายไป

เมื่อ 2 ยักษ์ค้าปลีกซึ่งเป็นเดสติเนชั่นยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่น ประกาศแผนเปิดสาขาโมเดลใหม่ที่มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นพิเศษ หวังชิงสร้างยอดขายในช่วงที่การช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังร้อนแรงต่อเนื่อง โดยคาดว่า ปี 2024 นี้ เม็ดเงินจากการช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำสถิติใหม่ที่ 8 ล้านล้านเยน นำโดยนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ

สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ดองกี้ หรือ ดองกิโฮเต้ และ บิ๊ก คาเมร่า 2 ยักษ์ค้าปลีกญี่ปุ่น พร้อมใจกันประกาศแผนเปิดสาขาโมเดลใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับรองรับลูกค้านักเที่ยวต่างชาติให้มากกว่าสาขาโมเดลปกติ

สำหรับรายละเอียดของร้านดองกี้โมเดลใหม่นั้น แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง บริษัทแม่ของดองกี้ ระบุว่า สาขาโมเดลใหม่จะมีพื้นที่ขายประมาณ 300-1,000 ตร.ม. หรือประมาณ 1 ใน 5 ของสาขาโมเดลขนาดใหญ่ ส่วนไลน์สินค้านั้นจะมีทั้งกลุ่มยาสามัญ, ขนมขบเคี้ยว, สินค้าอนิเมะ ส่วนเวลาเปิดทำการนั้นจะไม่ใช่แบบ 24 ชั่วโมง แต่เป็นเปิดถึงช่วงดึกแทน

โดยแพน แปซิฟิคฯเล็งเปิดสาขาโมเดลใหม่นี้ในจังหวัดเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวอย่างโตเกียวและโอซากา ประเดิมสาขาแรกในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ก่อนจะเดินหน้าขยายเพิ่มตามเป้ามี 7-8 สาขาภายในเดือนมิถุนายน 2027

แพน แปซิฟิคฯตั้งเป้ายอดขายแบบปลอดภาษีในปีงบฯนี้ (สิ้นสุด มิ.ย. 2027) ไว้ที่ 1.75 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 50% จากปีงบฯล่าสุด (สิ้นสุด มิ.ย. 2024) หลังในปีงบฯที่ผ่านมา แพน แปซิฟิคฯทำยอดขายแบบปลอดภาษีได้มากถึง 1.17 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว จากช่วงเดียวกันของปีงบฯก่อนหน้า

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ตัวเลขนี้ยังสูงกว่ายอดขายของอิเซตัน มิตสึโคชิ โฮลดิงส์ (Isetan Mitsukoshi Holdings) ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปีงบฯที่ผ่านมา (สิ้นสุด มี.ค. 2024) มียอดขายแบบปลอดภาษี 1.08 แสนล้านเยนอีกด้วย สะท้อนถึงโพซิชั่นเดสติเนชั่นของนักช็อปต่างชาติของดองกี้ได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน เชนร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ บิ๊ก คาเมร่า วางแผนเปิดสาขาโมเดลใหม่ที่เน้นรองรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน โดยปังธงสาขาแรกไปแล้วที่ห้างสรรพสินค้าไดมารู ซินไซบาชิ ในกรุงโอซากา เมื่อเดือนตุลาคม 2024 และวางแผนปูพรมสาขาโมเดลนี้ถึง 20 สาขา ภายในเดือนสิงหาคม 2029

ADVERTISMENT

โดยหนึ่งในจุดแตกต่างของโมเดลนี้จะอยู่ที่ป้ายข้อมูลสินค้าในแต่ละชั้นของร้าน ที่นอกจากจะบอกรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ และจีนแล้ว ยังเน้นการนำทางลูกค้าไปยังโซนสินค้ายอดนิยมอย่างวิสกี้ผลิตในญี่ปุ่น และนาฬิกาข้อมือแบรนด์หรูด้วย

พร้อมกันนี้ ทั้งแพน แปซิฟิคฯ และบิ๊ก คาเมร่า ยังจับมือกับสายการบินใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อโปรโมตสาขาโมเดลใหม่นี้บนเที่ยวบินขาเข้าประเทศ เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

นอกจาก 2 ยักษ์ค้าปลีกแล้ว มัตสึคิโยะโคโคคาระ แอนด์ โค (MatsukiyoCocokara & Co) หนึ่งในเชนร้านขายยารายใหญ่ ยังเดินหน้าเปิดสาขาที่รองรับการขายสินค้าแบบปลอดภาษีทั้งในสนามบิน และในเมืองต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่นเช่นกัน

ทั้งนี้ องค์การการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น รายงานว่า ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม ปี 2024 นี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นถึง 30.19 ล้านคน ทำลายสถิติ 30 ล้านคนที่ทำไว้เมื่อปี 1964 ได้เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับด้านเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวจับจ่ายตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนที่มีมูลค่า 5.58 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

น่าสนใจว่า ร้านโมเดลใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของทั้งดองกี้ และบิ๊ก คาเมร่า จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่